ไคร่ามองไม่ออกเลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงได้ บางที ธีโอส์อาจมาด้วยเหตุผลของตัวเองก็ได้ บางทีความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอเลยแม้แต่น้อยก็ได้ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เอสคาลอนก็ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาไม่ใช่หรือ?
ไคร่ารู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งใด ๆ เลย เท่าที่รู้ขณะนี้ก็คือ ความรู้สึกถึงความร้อนแรงของเพลิงเผาไหม้ของมังกรที่อยู่ในเลือดของเธอ ขณะที่เดินผ่านสมรภูมิ มองเห็นเหล่าศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ของเธอตาย เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ เธอรู้ว่า ขณะนี้เธอไม่ใช้เด็กผู้หญิงอายุ 15 ที่มีความหวังว่าจะได้รับการยอมรับในสายตาของผู้ชายทั้งหลายอีกต่อไป เธอไม่ใช่เพียงของเล่นของท่านลอร์ด โกเวิร์นเนอร์ หรือผู้ชายคนไหน ว่าจะให้ทำตามที่คนเหล่านั้นต้องการอีกต่อไป เธอไม่ใช่สมบัติของผู้ชาย ที่จะทำหน้าที่ของภรรยา ถูกทำร้าย ถูกทำทารุณกรรมอีกต่อไป เธอเป็นตัวของตัวเองแล้ว เป็นนักรบท่ามกลางหมู่ชาย และเป็นผู้หนึ่งที่คนอื่นต้องเกรงกลัว
ไคร่าเดินผ่านทะเลแห่งซากศพจนมาถึงจุดที่กองซากศพสิ้นสุด และพื้นดินเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งและหิมะอีกครั้ง เธอหยุดยืนเคียงข้างพ่อของเธอ มองลงไปยังทิวทัศน์ของหุบเขาที่ทอดยาวอยู่ด้านล่าง ณ ที่แห่งนั้นมีประตูแห่งอาร์โกส์ที่เปิดอยู่ เมืองทั้งเมืองว่างเปล่า เนื่องจากชายหนุ่มทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ในหุบเขา นับเป็นสิ่งที่น่าขนลุกที่ได้เห็นป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ที่ว่างเปล่า ไร้การป้องกันอย่างนี้ ป้อมปราการอันยิ่งใหญ่แห่งแพนดีเซียที่ในเวลานี้เปิดกว้าง รอให้ผู้ใดก็ได้ผ่านเข้าไป กำแพงสูงทะมึนที่สร้างจากก้อนหินหนา เหล่าทหารนับพันที่เคยวางกำลังปกป้องเป็นชั้น ๆ สร้างความประหวั่นให้ผู้ใดก็ตามที่ต้องการต่อกร ด้วยที่ตั้งที่ทำให้แพนดีเซียเป็นเหมือนมือเหล็กของดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของเอสคาลอน
พวกเขาเริ่มเดินลงมาตามทางลาดและเข้าสู่ถนนอันคดเคี้ยวที่นำไปสู่ประตูเมือง นับเป็นการเดินแห่งชัยชนะแต่ทว่าเคร่งขรึม ตามถนนยังมีศพอยู่ประปราย น่าจะเป็นกลุ่มที่มังกรมาพบและจัดการก่อนที่จะถึงท้องทุ่งแห่งการทำลายล้าง ช่างเหมือนเป็นการเดินผ่านหลุมฝังศพเสียจริง
ขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าประตูอันน่าเกรงขาม ไคร่าหยุดตรงธรณีประตู และต้องตะลึงเนื่องจากเมื่อเธอมองผ่านประตูเข้าไป เธอเห็นซากศพอีกนับพันซากที่ไหม้เกรียมควันฟุ้งอยู่ นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับองครักษ์ของท่านลอร์ด กลุ่มที่อยู่รั้งท้าย ธีโอไม่ปล่อยให้ใครเหลือรอดเลยแม้สักคนเดียว ความโกรธแค้นของเขาเป็นที่ประจักษ์ แม้แต่บนผนังกำแพง ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ก่อเป็นกำแพงก็กลายเป็นสีดำด้วยเปลวเพลิง
ขณะที่เดินเข้า อาร์โกส์ ณ เวลานี้เป็นที่ประจักษ์ในความเงียบสงัด ลานด้านหน้าว่างเปล่า มันดูไม่ตลกเลยที่มาเห็นเมืองที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตใด ๆ เช่นนี้ เหมือนพระเจ้าได้ดูดกลืนทุกชีวิตขึ้นไปด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียว
ในขณะที่เหล่าทหารของพ่อเธอเร่งรุดไปด้านหน้า เสียงแห่งความตื่นเต้นดังทั่วไปในอากาศ และในไม่ช้าไคร่าก็รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอสามารถมองเห็นว่าบนพื้นดินเต็มไปด้วยขุมทรัพย์แห่งอาวุธที่ไม่เคยมีใครเคยได้เห็นมาก่อนกองอยู่เกลื่อนกลาด กระจายอยู่ทั่วทั้งสนาม อาวุธชั้นเลิศ โลหะที่ดีที่สุด เกราะชั้นยอดที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ส่องแสงเป็นประกายด้วยสัญลักษณ์ของแพนดีเซีย นอกจากนี้ ยังมีถุงทองกระจายอยู่ทั่วไปท่ามกลางกองอาวุธเหล่านี้ด้วย
ดียิ่งไปกว่านั้น ขอบสนามเป็นที่ตั้งของคลังอาวุธที่สร้างจากหิน มีประตูที่เปิดกว้างทำให้เห็นห้องที่สร้างจากหินหลายห้อง ภายในมีกองทัพม้าชั้นเลิศ ที่ไม่ได้รับอันตรายจากลมหายใจเพลิงของมังกร ม้าจำนวนมากที่จะขนคนทั้งกองทัพได้
ไคร่าเห็นความหวังผุดขึ้นในดวงตาของพ่อของเธอ ภาพที่เธอไม่เคยเห็นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเธอรู้ด้วยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เอสคาลอนจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงแหลมดังขึ้นอีกครั้ง และไคร่ามองขึ้นไปก็พบธีโอส์บินวนต่ำลงมา ขยายกรงเล็บออก กระพือปีกอันยิ่งใหญ่ในขณะที่บินเหนือเมือง เป็นการแสดงชัยชนะ ดวงตาสีเหลืองสุกปลั่งจ้องมองมาที่เธอ แม้จะอยู่ไกลออกไป แต่เธอก็ไม่สามารถหันไปทางอื่นได้
ธีโอส์กดหัวลงต่ำลงมาและลงแตะพื้นที่ด้านนอกประตูเมือง เขานั่งอย่างภาคภูมิใจ หันหน้ามาทางเธอ เหมือนกับจะเรียกตัวเธอเข้าไปหา และเธอก็รู้สึกว่าเขากำลังเรียกเธออยู่
ไคร่ารู้สึกเหมือนผิวหนังถูกแทง หัวใจเต้นรัวอยู่ภายใน เมื่อเธอรู้สึกถึงการเชื่อมต่อระหว่างเธอกับสิ่งมีชีวิตตัวนี้รุนแรงขึ้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินเข้าไปหาเขา
ในขณะที่ไคร่าหันหลังกลับและเดินข้ามสนามมุ่งหน้าไปยังประตูเมือง เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของผู้ชายทั้งหลายที่จ้องมองเธอ ทั้งหมดหยุดเพื่อจ้องมองเธอและมังกร เธอเดินไปที่ประตูเมืองเพียงลำพัง รองเท้าบูทเหยียบหิมะ ในขณะที่เธอเดินไปด้วยใจระทึก
เมื่อเธอกำลังจะเดินไปนั้น ไคร่ารู้สึกได้ถึงมืออันอ่อนโยนจับที่แขนของเธอ หยุดรั้งเธอไว้ เมื่อหันกลับไปมองเห็นเป็นพ่อของเธอมีสีหน้าห่วงใยมองมาที่เธอ
“ระวังตัวด้วย” เขาเตือน
ไคร่าเดินต่อ ไม่รู้สึกกลัวใด ๆ แม้เจ้ามังกรจะมีดวงตาที่ดุร้าย เธอมีเพียงความรู้สึกเชื่อมโยงที่ชัดเจนรุนแรง เหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของเธอที่ผุดขึ้นมา และเป็นส่วนที่เธอจะขาดไม่ได้ หัวของเธอหมุนคว้างด้วยความอยากรู้อยากเห็น ธีโอส์มาจากไหนกันนะ? เหตุใดเขาจึงมาที่เอสคาลอน? แล้วทำไมเขาจึงไม่มาเร็วกว่านี้?
ขณะที่ไคร่าเดินผ่านประตูเมืองอาร์โกส์และเข้าใกล้มังกร เสียงของเขาดังขึ้น เป็นเสียงที่ดังระหว่างเสียงลมหายใจและเสียงคำราม ขณะที่เขารอให้เธอเดินเข้าไปหา ปีกทั้งสองของเขากระพืออย่างนุ่มนวล เขาอ้าปากเหมือนจะพ่นไฟออกมา เผยให้เห็นฟันซี่ใหญ่ แต่ละซี่มีความยาวเท่า ๆ กับตัวเธอ และคมกริบเหมือนดาบ ในชั่วขณะ เธอรู้สึกตื่นกลัว ดวงตาของเขาจ้องนิ่งมายังเธอด้วยความจริงจังจนทำให้ยากที่จะคิด
ในที่สุด ไคร่าหยุดเดินตรงตำแหน่งที่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ฟุต เธอมองดูเขาด้วยความเกรงขาม ธีโอส์ดูยิ่งใหญ่ เขาสูงสามสิบฟุต เกล็ดของเขาหนาแข็งและดูเก่าแก่ พื้นสะเทือนขณะที่เขาหายใจ หน้าอกของเขาสั่นไหว และเธอรู้สึกว่าชีวิตเธอขึ้นอยู่กับความเมตตาของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งสองยืนอยู่ในความเงียบ หันหน้าเข้าหากัน พิเคราะห์ซึ่งกันและกัน หัวใจของไคร่าเต้นระรัวในหน้าอก ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นในอากาศจนเธอรู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออก
ลำคอของเธอแห้งผาก ในที่สุด เธอยอมที่จะรวบรวมความกล้าเอ่ยปากออกมาก่อน
“ท่านเป็นใคร?” เธอถาม เสียงเธอแผ่วเบาจนคล้ายเสียงกระซิบ “เหตุใดจึงมาหาฉัน? ท่านต้องการอะไรจากฉันหรือ?”
ธีโอส์น้อมหัวลงต่ำ ส่งเสียงคำราม และโน้มตัวมาข้างหน้า ใกล้จนจมูกอันใหญ่โตของเขาเกือบสัมผัสหน้าอกของเธอ ดวงตาอันใหญ่โตทั้งสองของเขาเป็นสีเหลืองสุกใส เหมือนกับจะจ้องมองที่เธอ เธอเหลือบมองไปที่ดวงตาคู่นั้น ที่แต่ละดวงใหญ่เท่า ๆ กับตัวเธอ และรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในอีกโลก อีกเวลาหนึ่ง
ไคร่ารอคอยคำตอบ เธอรอคอยให้ความคิดของเธอได้รับการเติมเต็มด้วยความคิดของเขา เหมือนที่เคยเป็นมาก่อน
แต่เธอได้แต่รอกับรอ และต้องตกใจที่รู้สึกว่าจิตใจของเธอช่างว่างเปล่า ไม่มีอะไรสื่อสารมาหาเธอเลย ธีโอส์เงียบไปแล้วหรือ? เธอสูญเสียการเชื่อมต่อกับเขาแล้วอย่างนั้นหรือ?
ไคร่าเหลือบมองกลับด้วยความประหลาดใจ มังกรในเวลานี้มีความเร้นลับมากยิ่งกว่าที่เคย ทันใดนั้นเอง เขาลดหลังลงต่ำเหมือนกับจะให้เธอขึ้นขี่ หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น ในขณะที่เธอจินตนาการภาพเธอขี่หลังมังกรบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
ไคร่าค่อย ๆ เดินไปด้านข้างตัวเขา เอื้อมตัวไปจับที่เกล็ดที่ทั้งแข็งและหยาบ กำลังเตรียมที่จะจับที่ลำคอและปีนขึ้น
แต่ทันใดนั้นเอง เมื่อเธอสัมผัสตัว มังกรบิดตัวหนีออกไป ทำให้เธอหลุดมือและเสียหลัก ในขณะที่เขากระพือปีกเพียงครั้งเดียวอย่างรวดเร็ว ลอยตัวขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วจนฝ่ามือของเธอถูกับเกล็ดของเขา เหมือนถูกับกระดาษทราย
ไคร่ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ งุนงง และยิ่งไปกว่านั้น หัวใจสลาย เธอดูหมดหวังในขณะที่เจ้าสิ่งมีชีวิตยกตัวสูงขึ้นในอากาศ ร้องเสียงแหลม และบินสูงขึ้นไปอีก และทันทีที่ถึงกลุ่มเมฆ ธีโอส์บินหลายเข้าไปในกลุ่มเมฆ ไม่เหลืออะไรอีก นอกจากความเงียบที่เข้ามาแทนที่ตัวเขา
ไคร่ายังยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าที่เคย และในขณะที่เสียงร้องสุดท้ายของเขากำลังจางหายไปนั้น เธอรู้สึกเพียงว่า ครั้งนี้ ธีโอส์จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ
บทที่สอง
อเล็กวิ่งผ่านป่าในค่ำคืนอันมืดสนิท มีมาร์โคอยู่เคียงข้าง เขาสะดุดรากไม้ที่โผล่พ้นพื้นที่ปกคลุมด้วยหิมะ เขาวิ่งไปพลางสงสัยว่าเขาจะเอาตัวรอดออกไปได้หรือไม่ หัวใจของเขาเต้นรัวในขณะที่เขาวิ่งหนีเอาชีวิตรอด กระหืดกระหอบ ใจอยากหยุดแต่ต้องพยายามรักษาระยะห่างกับมาร์โคไว้ เขาเหลือบมองข้ามไหล่ไปด้านหลังเป็นครั้งที่ร้อยในขณะที่แสงสว่างจาก เปลวไฟ เริ่มจางลง และเริ่มหายไปในป่าที่พวกเขาหนีมา เขาผ่านบริเวณที่มีต้นไม้หนาแน่น และในไม่ช้า เปลวไฟก็หายไปโดยสิ้นเชิง ขณะนี้ทั้งสองอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
อเล็กเลี้ยวและพยายามคลำหาทางในขณะที่วิ่งชนต้นไม้ ลำต้นหวดเข้ากับไหล่ กิ่งไม้ขูดเข้ากับแขน เขาวิ่งเข้าไปในความมืดที่อยู่ด้านหน้า แทบไม่รู้ทาง พยายามไม่สนใจกับเสียงประหลาดที่อยู่รอบกาย เขาได้รับคำเตือนมาก่อนแล้วสำหรับป่าแห่งนี้ ว่าไม่มีใครเคยมีชีวิตรอดออกไปได้ และเขายิ่งมีความรู้สึกนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเข้าลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่นี่ สิ่งมีชีวิตอันชั่วร้ายที่ซุ่มซ่อนอยู่ทุกหนแห่ง ป่านี้หนาแน่นมากจนยากที่จะเคลื่อนไหว และกิ่งไม้เกี่ยวพันรอบตัวเข้ามากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ทุกย่างก้าวเขาเริ่มสงสัยแล้วว่า คงดีกว่าหรือไม่ ถ้ายอมอยู่กับเปลวเพลิงด้านหลัง
“ทางนี้!” เสียงที่ออกมาแสดงถึงความไม่พอใจ
มาร์โคคว้าที่ไหล่ของเขาและดึงเขาให้เลี้ยวไปทางขวา ระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้น มุดใต้กิ่งไม้ที่โน้มลงมา อเล็กวิ่งตามไป ลื่นไปบนหิมะ และไม่ช้าก็ผ่านเข้ามากึ่งกลางป่าทึบ กลายเป็นที่โล่งแจ้งมีแสงจันทร์ส่องถึงคอยนำทางพวกเขา