Морган Райс - นภาแห่งเวทมนตร์ หนังสือเล่มที่ 9 ในชุดวงแหวนของผู้วิเศษ стр 3.

Шрифт
Фон

อย่างน้อยๆ ธอร์คิดในใจ เขาก็จะตายอยู่กับฝ่ายที่ถูกต้องในสมรภูมินี้

บทที่ สอง

พระนางลูอันดาทรงต่อสู้และดิ้นรนในขณะที่โรมิวลัสกำลังอุ้มพระองค์ไว้ในอ้อมแขน เขานำตัวพระนางไปทีละก้าวๆ ออกไปห่างไกลจากบ้านเกิดมากขึ้นๆ ขณะที่พวกเขากำลังข้ามสะพานไป พระนางทรงกรีดร้องและทรงดิ้นทุรนทุราย พระนางทรงใช้พระนขาจิกลงบนผิวหนังของเขา ไหล่ของเขากว้างเกินไปและเขาก็โอบพระนางอย่างแน่นหนาเหมือนดั่งงูเหลือมรัดเหยื่อเอาไว้และบีบรัดเหยื่อจนตาย มันแน่นจนพระนางแทบมิอาจจะทรงหายใจได้และทรงรู้สึกเจ็บปวดบริเวณซี่โครง

นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว สิ่งพระนางทรงวิตกกังวลไปมากที่สุดไม่ใช่เรื่องตัวของพระนางเอง เมื่อพระนางทอดพระเนตรขึ้นไปทรงพบว่า ที่สุดปลายสะพานนั้นเป็นกองทัพอันใหญ่โตมโหฬารดั่งมหาสมุทรของทหารจักรวรรดิที่ยืนรออยู่ตรงนั้น พร้อมกับอาวุธที่ครบครัน พวกเขาทุกคนต่างดูร้อนใจที่จะลดระดับโล่พลังลง เพื่อจะได้ข้ามมายังสะพาน พระนางลูอันดาทอดพระเนตรเห็นเสื้อคลุมแปลกประหลาดที่โรมิวลัสสวมใส่อยู่ มันมีการสั่นสะเทือนและมีแสงเปล่งปลั่งออกมา ในขณะที่เขากำลังอุ้มพระนางไปนั้น พระนางทรงรู้สึกว่าพระนางเหมือนกลับเป็นกุญแจดอกหนึ่งที่เขาจะนำมาลดระดับของโล่พลังลง มันต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับพระองค์ มิเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงต้องหลับผ่าตัพระองค์ด้วยเล่า?

พระนางลูอันดาทรงรู้สึกถึงการตัดสินใจอันแน่วแน่ในขณะนี้พระองค์จะต้องเป็นอิสระให้ได้ที่ไม่ใช่เพื่อตัวพระองค์เองแต่เป็นการทำเพื่ออาณาจักรเพื่อประชาชนหากโรมิวลัสสามารถลด โลพลังลงได้แล้วพวกทหารหลายพันนายพวกนั้นก็จะจู่โจมเข้ามาทหารทั้งโขยงใหญ่ราวกับห่าตั๊กแตนนั้นก็จะเคลื่อนเข้ามาในอาณาจักรวงแหวน พวกเขาจะเข้ามาทำลาย สิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในดินแดนเกิดของพระองค์และพระองค์ก็ไม่อาจจะยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้

พระนางลูอันดาทรงเกลียดโรมิวลัสอย่างมาก พระนางทรงเกลียดทหารจักรวรรดิทุกคน และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวงนั้น พระนางทรงเกลียดแอนโดรนิคัสมากที่สุด สายลมแรงพัดผ่านมาและพระนางทรงรู้สึกถึงลมอันหนาวเย็นที่พัดผ่านพระเศียรที่ถูกโกนจนเปลือยเปล่า พระนางทรงร้องครวญครางเมื่อพระนางทรงจดจำได้ถึงช่วงเวลาที่ถูกโกนพระเกศา มันสร้างความอัปยศอดสูให้กับพระองค์จากเงื้อมมือพวกสัตว์เดรัจฉาน พระนางจะฆ่าพวกมันทั้งหมดทุกคนหากพระองค์ทรงทำได้

เมื่อโรมิวลัสได้เข้ามาปลดพระองค์ให้เป็นอิสระจากค่ายของแอนโดรนิคัส ในตอนแรกพระนางลูอันดาทรงคิดว่าพระองค์ได้ถูกไว้ชีวิตจากโชคชะตาอันโหดร้าย ได้ถูกช่วยไว้จากการต้อนเข้าไปอยู่ในขบวนพาเหรดรอบเมือง ที่พวกเขาทำกับพระนางเหมือนอย่างกับสัตว์ตัวหนึ่งในอาณาจักรของแอนโดรนิคัส แต่โรมิวลัสกลับแย่ไปกว่าแอนโดรนิคัสเสียอีก พระนางทรงแน่พระทัยว่า เมื่อใดที่พวกเขาข้ามสะพานไปได้ เขาจะฆ่าพระนางเสีย หรือไม่ก็จะทรมานพระองค์ก่อน พระนางจะต้องหาหนทางหลบหนีให้ได้

โรมิวลัสชะโงกหน้ามาพูดในพระกรรณของพระนางด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ซึ่งทำให้พระเกศาลุกชันขึ้น

"จากตรงนี้ อีกไม่นานหรอกที่รัก"เขากล่าวพระนางทรงต้องคิดทำสิ่งใดอย่างรวดเร็วพระนางลูอันดาทรงไม่ใช่ทาส พระองค์ทรงเป็นพระธิดาพระองค์แรกของกษัตริย์ สายพระโลหิตแห่งขัตติยะวงศ์ไหลวนอยู่ในพระวรกาย เป็นสายพระโลหิตแห่งนักรบ และพระองค์ทรงไม่กลัวผู้ใด พระนางจะทรงทำทุกอย่าง พระนางจะต้องต่อสู้ศัตรูไม่ว่าหน้าไหน แม้ว่าเขาอาจจะวิตถารหรือมีความแข็งแกร่งมากอย่างเช่นโรมิวลัส

พระนางลูอันดาทรงรวบรวมพละกำลังที่เหลือทั้งหมดและในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วครั้งนั้น พระองค์ทรงเอนพระศอไปด้านหลัง จากนั้นจึงตวัดมาด้านหน้าอย่างเร็วและฝังพระทนต์ลงไปยังลำคอของโรมิวลัส  พระองค์ทรงกัดลงไปอย่างแรงด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีและบีบมันให้แน่นขึ้นให้แรงขึ้น จนกระทั่งเลือดกระเซ็นออกมาทั่วพระพักตร์ของพระนาง จนเขากรีดร้องและปล่อยตัวพระนางตกลงมา พระนางลูอันดาทรงรีบขยับตัวลงบนพระชานุ ทรงหันพระวรกายและรีบลุกขึ้นมา แล้วทรงวิ่งด้วยความเร็วสูงกลับไปที่ยังสะพานไปสู่ดินแดนบ้านเกิดเมืองนอน

พระนางทรงได้ยินเสียงฝีเท้าที่ตามมาอยู่ด้านหลังเขารวดเร็วเกินกว่าที่พระนางทรงคาดไว้และเมื่อพระนางทรงชำเรืองกลับไปพระองค์ก็เห็นเขาตามมาด้วยสีหน้าที่ โกรธแค้นเดือดดาลอย่างที่สุด

พระนางทอดพระเนตรไปข้างหน้าและเห็นพื้นแผ่นดินของอาณาจักรวงแหวนอยู่ตรงหน้าห่างไปเพียง 20 ฟุตเท่านั้นและพระองค์ทรงเร่งวิ่งให้หนักขึ้นกว่าเดิม

มันห่างไปเพียงไม่กี่ก้าวแล้ว ทันใดนั้น พระนางลูอันดาก็ทรงรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างน่าสะพรึงกลัวอยู่ที่พระอัฐิด้านหลัง ในขณะที่โรมิวลัสกำลังถลำตัวมาด้านหน้าและใช้ศอกกระทุ้งเขายังส่วนหลังของพระองค์ พระนางทรงรู้สึกราวกับว่าเขาได้บดขยี้ หักพระอัฐิส่วนนั้น จนพระนางทรงล้มลง พระพักตร์คว่ำไปอยู่กับพื้นดิน

อีกชั่วขณะหนึ่ง โรมิวลัสได้คร่อมอยู่บนพระวรกาย เขาหมุนพระนางไปรอบๆและต่อยเข้ายังพระพักตร์ของพระนาง เขาต่อยพระนางอย่างแรง จนกระทั่งพระวรกายพลิก ไปอีกด้าน และทรงนอนราบหลังติดกับพื้นดิน ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปทั่วทั้ง พระพักตร์ในขณะที่พระนางทรงนอนอยู่ตรงนั้นแหละแทบจะหมดพระสติ

พระนางลูอันดาทรงรู้สึกว่าพระองค์ถูกห้อยตัวอยู่เหนือหัวของโรมิวลัสและพระนางทรงเฝ้ามองดูด้วยความหวาดผวา ในขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังขอบของสะพานและเตรียมตัวที่จะโยนพระนางลงไป เขากรีดร้องขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้น ยกลำตัวพระนางขึ้นสูงเหนือหัว และเตรียมตัวที่จะโยนพระองค์ลงไป

พระนางลูอันดาทรงทอดพระเนตรลงไปยังหน้าผาสูงชันและพระองค์ทรงรู้ว่ากำลังจะสิ้นพระชนม์ชีพ

แต่โรมิวลัสยังคงแบกพระนางอยู่ตรงนั้น เขายืนตัวแข็ง ยืนอยู่ตรงหน้าผาด้วยลำแขนที่สั่นเทา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดสิ่งใดที่ดีไปกว่านี้ ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวแห่งความเป็นความตายนั้น ดูเหมือนว่าโรมิวลัสจะโต้แย้งกับตัวของเขาเอง เขาต้องการที่จะโยนพระนางลงไปจากขอบผาด้วยความคลั่งไคล้ เดือดดาล แต่กระนั้น เขาก็ยังไม่ได้ทำมันลงไป เขายังต้องการบรรลุเป้าหมายของตนจากการใช้งานพระนาง

ในที่สุด เขาก็ลดพระนางลงและใช้แขนรัดพระนางให้แน่นยิ่งขึ้น บีบรัดจนพระชนม์ชีพแทบดับสูญ เขารีบเร่งข้ามไปยังหุบเขาใหญ่ รีบมุ่งหน้ากลับไปหาประชาชนของเขา

ในเวลานี้พระนางลูอันดาทรงห้อยตัวอยู่ตรงนั้นอย่างอ่อนล้า อย่างเจ็บปวด ไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ทรงทำได้มากไปกว่านี้ พระนางทรงพยายามและก็ทรงล้มเหลว ในตอนนี้สิ่งที่พระนางสามารถทำได้ คือ การเฝ้ามอง โชคชะตาที่จะเข้ามา ทีละก้าวทีละก้าว ในขณะที่พระนางถูกแบกข้ามไปยังหุบเขาใหญ่นั้น หมอกที่หมุนวนก็ยกตัวขึ้นมาพร้อมกับโอบล้อมพระองค์ไว้ จากนั้นจึงหายไปอย่างรวดเร็ว พระนางลูอันดาทรงรู้สึกราวกับว่า พระองค์ทรงถูกย้ายมาอยู่ยังอีกโลกหนึ่ง อยู่ในสถานที่ที่พระองค์จะไม่มีวันได้หวนคืนกลับมา

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงฝั่งที่อยู่ไกลออกไปของหุบเขาใหญ่ และเมื่อโรมิวลัสได้ก้าวขาก้าวสุดท้าย เสื้อคลุมที่อยู่รอบไหล่ของเขาก็สั่นสะเทือนพร้อมกับเกิดเสียงดังขึ้นมา มีแสงสว่างส่องเรืองรองออกมาเป็นสีแดง โรมิวลัสปล่อยพระนางลูอันดาไว้บนพื้นดินราวกับเป็นหัวมันฟารัสเก่าๆ พระนางทรงตกกระแทกที่พื้นอย่างแรง พระเศียรชนเข้าอย่างแรงกับพื้นและทรงนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ทหารของโรมิวลัสยืนอยู่ตรงนั้นที่ขอบของสะพาน พวกเขาจ้องมองออกมา เห็นได้ชัดว่า ทหารทุกนายต่างหวาดกลัวที่จะก้าวขาและทดสอบว่าโล่พลังได้ถูกลดระดับลงแล้ว

โรมิวลัสดึงทหารมาหนึ่งนายและยกเขาขึ้นสูงเหนือหัว พร้อมกับโยนเขาออกไปยังสะพาน โยนตรงไปยังกำแพงที่มองไม่เห็น ในบริเวณที่มันเคยเป็นกำแพงของโล่พลังมากก่อน ทหารคนนั้นชูมือขึ้นและกรีดร้อง เขาพยายามทำใจกล้ากับความตายอันเที่ยงแท้ที่เขาคาดว่า จะร่างของตนจะแหลกสลายแตกออกเป็นเสี่ยง

แต่เวลานี้มีบางอย่างที่ต่างออกไป ร่างของทหาร ลอยละลิ่วไปในอากาศแล้วตกลงยังบนสะพานจากนั้นจึงกลิ้งไปหลายตลบฝูงชนต่างพากันเฝ้ามองด้วยความเงียบงัน เพื่อดูว่าทหารที่กลิ้งไปนั้นจะยังมีชีวิตหรือไม่

ทหารคนนั้นหันตัวลุกขึ้นนั่งและจ้องมองกลับมายังเหล่าทหาร ซึ่งตัวเขาเองดูเหมือนจะตกตะลึงมากที่สุดว่าเขาทำมันสำเร็จ เรื่องนี้ตีความได้เป็นอย่างเดียว คือ โล่พลังถูกลดระดับลงแล้ว

กองทัพของโรมิวลัสพากันโห่ร้องด้วยเสียงดังสนั่น จากนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเข้าจู่โจม อพยพเข้ามาดั่งฝูงแมลง รีบเร่งเข้ามาในอาณาจักรวงแหวน เจ้าหญิงลูอันดาทรงหมอบตัวคตคู้ ทรงพยายามที่จะพาตัวออกมาอยู่นอกเส้นทางที่พวกเขาจะกระทืบผ่าน มันดูเหมือนกับโขยงของฝูงช้างที่มุ่งหน้าเข้าไปยังบ้านเกิดของพระองค์ พระนางทรงเฝ้าดูด้วยความรู้สึกหวาดกลัว

ในขณะนี้ พระนางรู้ดีว่าประเทศของพระองค์มาถึงจุดจบแล้ว

บทที่ สาม

เจ้าชายรีสทรงยืนอยู่ ณ ขอบบ่อลาวา ทอดพระเนตรลงไปอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในขณะที่พื้นพสุธาสั่นไวอย่างรุนแรงอยู่ด้านล่าง พระองค์ทรงแทบไม่สามารถประมวลเรื่องที่พระองค์พึ่งทรงกระทำลงไป กล้ามเนื้อของพระองค์ยังคงเจ็บปวดจากการปล่อยก้อนหินใหญ่ที่ดาบแห่งโชคชะตาฝังตัวอยู่ลงไปในหลุมนั้น

พระองค์เพิ่งจะทำลายอาวุธที่มีพลานุภาพมากที่สุดในอาณาจักรวงแหวน อาวุธในตำนาน ดาบของบรรพบุรุษที่ผ่านมาหลายชั่วคน อาวุธของผู้ที่ถูกเลือก อาวุธหนึ่งเดียวที่ทำให้โล่แห่งพลังยืนหยัดอยู่ได้ พระองค์ทรงขว้างมันลงไปในบ่อของไฟหลอมละลายแล้วเห็น มันถูกหลอม ลูกบอลสีแดงขนาดใหญ่ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและหายสาบสูญไปสู่ความว่างเปล่าด้วยดวงพระเนตรของพระองค์เอง

Ваша оценка очень важна

0
Шрифт
Фон

Помогите Вашим друзьям узнать о библиотеке

Скачать книгу

Если нет возможности читать онлайн, скачайте книгу файлом для электронной книжки и читайте офлайн.

fb2.zip txt txt.zip rtf.zip a4.pdf a6.pdf mobi.prc epub ios.epub fb3

Популярные книги автора