พวกเขาหยุดที่เตียงแต่งงานและจ้องมอง เฮงนั่งตัวตรงอยู่บนเตียง ผิวซีดเซียวและดวงตาแดงกร่ำเปล่งประกายในความมืด
“สวัสดีตอนเย็นทุกคนในครอบครัว!” เขาพูดด้วยเสียงต่ำและแหบห้าว
ทั้งสามคนขึ้นไปบนเตียงตามลำดับ แต่ไม่อาจละสายตาจากเฮงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้ แต่มีเพียงสายตาจ้องมองออกไปข้างหน้าของตัวเอง
1 3 ผีปอบเฮง
พวกเขาได้ตื่นมาในตอนเช้าจากการเผลอหลับไปจากอาการเหนื่อยล้า เฮงห่มผ้าเรียบร้อยและหนุนหมอนสูง
ทุกคนลุกขึ้น และลงไปข้างล่างทันทีเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเดินผ่านเตียงเขาไปอย่างรวดเร็ว
“โว้ว แม่ เห็นพ่อเมื่อคืนนี้ไหม” เด่นถาม “ดวงตาของเขา และผิวของเขาสว่างจ้าอยู่ในห้อง แต่ทว่ามันเป็นดวงตาของเขาจริงหรือ มันเคยเป็นสีดำบนพื้นสีขาวเหมือนเรา แต่ตอนนี้พวกมันเป็นสีแดงบนพื้นสีชมพู… ฉันคาดว่า… คงเป็นเพราะเลือดทั้งหมดนั่นแน่ ๆ
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ลูกเอ้ย แต่แม่คิดว่าลูกพูดถูก เธอคงต้องหามันเพิ่มอีก และพาน้องสาวเธอไปกับเธอด้วยเพื่อไปเอานมมาเพิ่มอีก เธอจำวิธีการที่ป้าเอาเลือดได้ไหม
“ได้ครับแม่ ผมคิดว่าจะเอามันจากเจ้าแพะตัวผู้ดีไหม เพื่อให้มันเป็นตัวสุดท้ายที่จะเอาใช้รักษาได้
“ดี เป็นความคิดที่ดี เด่น ใช้เลือดแพะที่ต่างกันในแต่ละวัน และดินก็สามารถรีดนมตามปกติได้ในทุกวัน ในเวลานี้นมแพะทั้งหมดจะใช้สำหรับพ่อของเธอ ตกลงไหม เขาต้องการมันมากกว่าที่พวกเราหาได้ และเราไม่ต้องการให้เขาหิวในตอนดึกใช่ไหม”
“ไม่นะ แม่ ไม่เด็ดขาด! ฉันต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้นอนเมื่อคืนนี้ ฉันกลัวจนตัวแข็งถ้าพ่อจะออกมาเอาเอง และเริ่มเดินเข้าไปมองหาอะไรกิน หรือใครบางคน”
“เธออย่ากังวลเรื่องนั้นตอนนี้เลยเด่น ฉันอยู่ใกล้มากกว่าเธอ ถ้าเขาจะมาก็ต้องเจอฉันก่อนแต่ถ้าเห็นความเหี่ยวเฉาและผิวหนังซีด ๆ บนเตียงนั่น ก็หลีกเลี่ยงไปสิ เช่นเดียวกันถ้าในตอนเช้าเธอเห็นดวงตาสีแดงสี่ดวงมองเธอผ่านมุ้งจากด้านหลังในเช้าวันหนึ่ง”
“พนันกันได้เลย แม่! ฉันจะไป และเอาเลือดนั่นเดี๋ยวนี้เลย ดินอยู่ที่ไหน”
“ฉันไม่รู้ บางทีเธออาจจะออกไปแล้ว ไปทำหน้าที่ของเธอเถอะ และฉันจะเอามอเตอร์ไซค์ไปรับป้าดา ฉันคิดว่าเรายังต้องการความช่วยเหลือสำหรับพ่อของเธอ เธอและน้องสาวของเธอรอฉันกลับมาก่อนนะ ก่อนที่จะขึ้นไปหาพ่อได้ไหม”
“ได้สิ แม่ ไม่จำเป็นต้องบอกถึงสองรอบหรอก แต่เราจะทำยังไงหากเขาเดินลงมา”
“ฉันไม่คิดว่าเขาจะลงมา…เขาหลับไปเร็วมากตอนที่ฉันลุกจากเตียง แต่เราจะอยู่ได้ไม่นาน ถ้าคิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมา แค่อย่าให้เขาจูบอรุณสวัสดิ์เท่านั้นเอง”
วรรณกลับมาภายในสิบนาทีหลังจากนั้นพร้อมกับดา ซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะของตัวเองเพื่อรอการมาเยี่ยมเฮงของคนในครอบครัวเฮงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพวกเขากลับมา เฮงยังไม่ลงมา ดินรวบรวมนมมา และเด่นก็เกือบจะพร้อมแล้ว
“เอาล่ะ” ดากล่าว “ตอนนี้ฉันแนะนำให้เอานมแพะกับเลือดมาอย่างละครึ่ง และใบโหระพา 1 ช้อนชา เม็ดผักชีครึ่งหนึ่ง และโรยลงไป คนมันให้เข้ากัน และอยู่ตรงนั้นก่อน ให้เขาดื่มครึ่งลิตรในตอนเช้า และทำเช่นเดียวกันในเวลาก่อนนอน นั่นน่าจะเพียงพอแล้วในตอนนี้ โอ้ แล้วอย่าให้กระเทียมเขาอีกนะ มันแย่มากสำหรับแวมไพร์! ไปกันเถอะ ไปหาเขาตอนนี้เลย”
“ก่อนที่เราจะไปขึ้นไป ป้าดา ฉันควรจะบอกป้าว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนั่งตัวตรงบนเตียง ส่องแสงแวววาวราวกับสัญญาณไฟพร้อมกับผิวซีดเผือด ด้วยดวงตาสีชมพูที่มีลูกกะตาสีแดง โอ้ และเมื่อเขาพูดกับเรา! โอ้ พระเจ้า! ฉันไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อน เขาพูดว่า “สวัสดีตอนเย็นทุกคน” ด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ แปลก ๆ … มันช่างน่ากลัวจริง ๆ”
“ตอนนี้ยังไม่เป็นไร… ไปกันเถอะ และไปดูเขาก่อน”
พวกเขาไปข้างบนพร้อมขวดมิลค์เชคและเข้าไปในห้อง บานประตูหน้าต่างทั้งหมดถูกปิดลง ดังนั้นด้านในจึงมืดสนิท วรรณก้าวออกไปข้างนอกอีกครั้ง หยิบเทียนจากเชิงเทียนจุดไฟด้วยไฟแช็คที่ห้อยจากเชือกใกล้ ๆ แล้วกลับเข้าไปในห้องเพื่อสมทบกับดา ซึ่งเข้าไปใกล้เตียงที่เฮงนอนอยู่
แสงเทียนเผยให้เห็นว่าไม่มีอะไรใหม่ สาว ๆ จึงผูกมุ้งและนั่งลงข้างเตียงทั้งสองข้าง วรรณดึงผ้าคลุมกลับ และเขานอนหงายเปลือยกาย อยู่ที่นั่น กางแขนออกกว้างเหมือนพระเยซูบนไม้กางเขน ลูกตาเบิกโพรงสีแดงกล่ำเข้มสองดวงในเม็ดอัลมอนด์สีชมพูอยู่บนหน้ากากที่แสนน่ากลัว ริมฝีปากของเขามีริ้วเล็ก ๆ สองเส้นรอบปากของเขา
วรรณมองดาที่กำลังศึกษาคนป่วยด้วยความสงสัย เธอวางหลังมือไว้บนหน้าผากของเขา และไม่แปลกใจเลยที่พบว่ามันเท่าอุณหภูมิในห้อง
“วันนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง เฮง” ผู้เป็นภรรยาถาม
“หิว… ไม่กระหาย” เขาพูด คำพูดดังออกมาจากปากของเขาเหมือนก้อนหินที่ตกลงไปบนโขดหินในเขาที่ดังกึกก้อง
“เอาล่ะ ที่รักของฉัน ลุกขึ้นนั่งเถอะ เรามีมิลต์เชคที่ดีเยี่ยมอีกมากสำหรับคุณ”
เธอจัดหมอนใหม่สำหรับเขา ช่วยให้เขาลุกขึ้นนั่ง และห่มผ้าให้เขา
“ดื่มนี่สักหน่อยนะที่รัก” วรรณบอก” มันเป็นรสชาติที่เธอชอบแบบเมื่อวานเลย”
ดาเทลงในแก้วน้ำ และเอาฟางข้าวใส่ลงไปให้เขา เฮงดื่มของเหลวสีชมพูที่มีฟองสมุนไพรสีเขียวลอยขึ้นมาไปสองแก้ว เขาถูกดึงให้นั่งตัวตรง และเหมือนว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้มองไปรอบ ๆ เป็นครั้งแรก
“เธอชอบไหมล่ะ เฮง” ดาถามขึ้น “ฉันเห็นว่าตอนนี้เธอมีชีวิตชีวากว่าตอนที่เราเข้ามาก่อนนี้มาก เธอคิดว่าเธอจะสามารถลงมาข้างล่างได้ในวันนี้ไหม แสงอาทิตย์ที่สาดส่องอาจทำเธอดีขึ้นมาบ้าง… เธอดูซีดไปหน่อย… เธอไม่คุ้นเคยกับการอยู่ข้างในแบบนี้ใช่ไหม”
เฮงมองไปที่เธอราวกับว่าเธอพูดภาษาต่างประเทศ แล้วก็มองมาที่ภรรยาของเขา
“เธอต้องการจะไปห้องน้ำไหม เฮง ผ่านมาสักพักแล้ว เธอรู้สึกดีขึ้นที่จะลงไปด้านล่างหรือไม่ เธอต้องการจะไปที่ห้องน้ำตอนนี้ หรือจะให้ฉันเอาถังขึ้นมาให้เธอ”
“ดีเลย เป็นความคิดที่ดี ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำข้างล่าง แต่ก่อนอื่นขออีกมิลค์เชคอีกสักหน่อย”
เนื่องจากผู้หญิงทั้งสองคนไม่ทราบว่าเขาควรรับปริมาณเท่าไร พวกเขาจึงปล่อยให้เขาดื่มมากเท่าที่เขาต้องการ และเฮงก็ดื่มจนหมดทั้งลิตร
ดานั่งเอาหลังพิงและเฝ้าสังเกตอาการ ในขณะที่วรรณช่วยใส่เสื้อผ้าให้เขา ดูเหมือนมิลค์เชคจะแสดงผลแล้ว เฮงมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้น
“เอาล่ะที่รัก มาแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่างกันเถอะ”
พวกผู้หญิงจับแขนคนละข้าง และช่วยชายที่ตัวสั่นระริกไปจนถึงเท้า เขาเหมือนจักรยานที่มีล้อโคลงเคลง เมื่อทั้งสองพาเขาออกไปที่ลานด้านนอก เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเจอแสงจ้า แต่จะมีใครที่ไม่เป็นบ้าง หลังจากใช้เวลาหนึ่งวันครึ่งในห้องมืด ๆ เด่นและดินมองไปที่พ่อของเขาที่ลงบันไดมา เหมือนผู้ป่วยติดเหล้าที่ได้รับความช่วยเหลือจากป้า และภรรยาของเขา
พวกเขาตกใจมากที่เขาดูอ่อนแอ และแตกต่างจากเดิมมาก จริง ๆ เฮงเป็นคนผอมบางอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาผอมแห้งขาวราวกับหิมะ และมีอัลมอนด์สีแดงสองลูกเป็นตา พวกเขาก้าวไปข้างหน้า เมื่อเฮงหยุดพักพิงที่โต๊ะเพื่อหายใจ
“เด่น เธอยังพอมีแว่นกันแดดเก่า ๆ อยู่บ้างไหม ฉันคิดว่าพ่อของเธอต้องการมันวันนี้ เพราะว่าดวงตาเขาไวต่อแสงนิดหน่อย”
ดาพูดว่า “เธอสามารถเอาเฮงไปที่ห้องน้ำคนเดียวได้ไหมวรรณ หรือเธอต้องการให้เด่นไปช่วยเธอไหม”
“ไม่ ฉันคิดว่าฉันสามารถจัดการเองได้”
เธอพาเฮงออกไป เฮงใช้มือข้างที่ว่างบังสายตาของตัวเอง หลังจากนั้นสิบห้านาทีเมื่อพาเขากลับมาที่โต๊ะแล้ว เขาดูเหนื่อยจากความพยายาม
“ดินขึ้นไปชั้นบน แล้วช่วยเอาผ้าปูที่นอนกับหมอนมาให้หน่อยได้ไหม วันนี้พ่อเธอจะลงมาพักผ่อนด้านล่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ และแสงแดด เขาไม่เคยใช้เวลามากเกินไปข้างในนี้ในชีวิตของเขาเลย ดังนั้นร่างกายของเขาไม่คุ้นเคยกับมัน ดูสภาพเขาสิ… ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮงมองคนสนทนากันไปมา แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจบทสนทนาสักเท่าไหร่ พวกเขาช่วยทำให้เฮงสบายขึ้นด้วยชุดเครื่องนอน และเด่นเอาแว่นกันแดดที่มีเลนส์สะท้อนแสงสีดำสนิทที่เขามีอยู่ให้ ซึ่งเขาเองภูมิใจมากเมื่อหลายปีก่อนตอนที่มันกำลังฮิต
ผลที่ตามมาคือ เฮงดูเหมือนนกประหลาดตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนหลังคาแล้วสวมแว่นตา และถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาว
“เอาล่ะ ฉันคิดว่าดีขึ้นแล้ว และเธอควรจะไปเตรียมมิลค์เชคสำหรับพ่อของเธอได้แล้ว เขาดูเหมือนจะหิวมากวันนี้ และนั่นเป็นสัญญาณที่ดี มันแสดงว่าเรากำลังทำอะไรที่ถูกทางอยู่!”
“วันนี้พ่อรู้สึกดีขึ้นมากใช่ไหม”
พวกเขาทุกคนรอปฏิกิริยาโต้ตอบของเขา จากนั้นเขาก็พยักหน้าดูราวกับนกเค้าแมวอย่างไม่น่าเชื่อ เด่นและดินพากันหัวเราะ พบว่ามันยากมากที่จะเปรียบสิ่งมีชีวิตบนโต๊ะอาหารกับพ่อของพวกเขาเมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงที่แล้ว
“ป้าคิดว่าฉันจะทำอาหารให้เฮงทานในเย็นนี้หรือเปล่า ป้าดา”
“มันก็ไม่ส่งผลต่อเขา ถ้าเขาจะกิน แต่มันก็ไม่มีอะไรทดแทนมิลค์เชคได้”
“เฮง เธอต้องการจะกินบางอย่างกับพวกเราทีหลังไหม”
เฮงโยกหัวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง และจ้องมองไปที่ภรรยาของเขา
“เธอจะทำอาหารอะไรในคืนนี้ วรรณ” ดาถาม
“ไก่หรือหมู… อะไรก็ได้ที่เขาชอบ”
เฮงยังคงมองจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งเหมือนคนในประเทศที่เขาไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน
“ทำไมไม่ถามเขาล่ะ เขาไม่ได้กลายมาเป็นคนโง่ หรืออย่างน้อยฉันไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปเลย”
“เธอต้องการจะกินอะไรเย็นนี้ เฮง หมูหรือไก่”
เขามองมาที่เธอสักพัก แล้วบอกว่า:
“ลูก…”
“คนไหนนะ ยังไงก็แล้วแต่ เฮง เธอไม่สามาถกินลูกได้… มันไม่ถูกต้อง”
“ไม่ใช่ลูกของเรา… ลูกแพะ… เรายังพอมีสักสองสามตัวหรือไม่” เฮงถาม
“มีสิ เรายังคงพอมีอีกบ้าง แต่ฉันคิดว่าเรากำลังจะเอามันไปรวมกับฝูง”
“แค่ลูกแพะตัวเดียวเอง”
ได้ เอาล่ะ ตกลง เฮง เห็นว่าเธอป่วยอยู่นะ ฉันจะทำเนื้อลูกแพะหั่นให้คืนนี้ และพวกเราที่เหลือจะทานหมูกัน”
“ฉันต้องการบาร์บีคิวไม่สุกมาก ไม่ใช่แกงนะ วรรณ ฉันอยากได้เนื้อบางส่วน เนื้อแดงแท้ ๆ
เด็ก ๆ รู้สึกโล่งใจที่สุดที่พ่อของพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกินพวกเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อถึงเวลาที่ดูเหมือนว่าเฮงต้องไปนอนหลับรออาหารเย็นของเขา เด่นถามแม่ของเขาว่าวันหนึ่งเขาจะอยากกินพวกเขาไหม