Морган Райс - ความรัก стр 4.

Шрифт
Фон

“เราเจอกัน…หลังจากคอนเสิร์ต” เคทลินพูด

อย่างน้อยมันก็เป็นความจริงบางส่วน

“จิงเหรอ คอนเสิร์ตอะไร? ในเมืองเหรอ? แบล็กอายด์พีส์รึเปล่า?” เธอถามอย่างรวดเร็ว “ฉันอิจฉามากเลย! ฉันอยากไปดูวงนี้มาก!”

เคทลินยิ้มออกมากับความคิดที่ว่าคาเลปอยู่ในงานคอนเสิร์ตร็อก มันเป็นภาพที่เธอนึกไม่ออกเลยจริง ๆ

“เอิ่ม…ก็ไม่เชิงหรอก” เคทลินพูด “ฟังนะลุยซา ขอโทษที่ตัดบท แต่ฉันมีเวลาไม่มาก ฉันต้องการรู้ว่าแซมอยู่ที่ไหน เธอเจอเขาบ้างไหม?”

“แน่นอน ทุกคนเห็นเขา เขากลับมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาดูแปลก ๆ ฉันถามว่าเขาไปไหนมา แต่เขาไม่บอก บางทีเขาน่าจะอยู่ที่โรงนาร้างที่เขาชอบไป”

“เขาไม่อยู่” เคทลินตอบ “เราเพิ่งไปที่นั่นมา”

“งั้นเหรอ? ขอโทษ ฉันไม่รู้ เขาเป็นเด็ก ม. 4 เธอก็รู้ พวกเราไม่ได้เข้าไปวุ่นวายมากนัก เธอลองส่งแชทหาเขารึยัง? เขาออนเฟซบุ๊กอยู่ตลอด”

“ฉันยังไม่มีโทรศัพท์…” เคทลินพูด

“ใช้ของฉันสิ” ลุยซาขัดจังหวะ และก่อนที่เคทลินจะพูดจบ ลุยซายื่นโทรศัพท์มือถือของเธอใส่มือของเคทลิน

“เฟซบุ๊กเปิดอยู่ แค่ลงชื่อเข้าใช้ และส่งข้อความหาเขา”

นั่นสิ เคทลินคิด ทำไมฉันไม่นึกถึงเรื่องนั้นมาก่อน?

เคทลินลงชื่อเข้าสู่ระบบ เธอพิมพ์ชื่อแซมในกล่องค้นหา ประวัติของเขาปรากฏขึ้น เธอคลิกไปที่ข้อความ เธอรู้สึกลังเลว่าจะพิมพ์อะไรลงไป จากนั้นเธอพิมพ์ว่า “แซม นี่ฉันเอง ฉันอยู่ที่โรงนา มาเจอฉันด่วนที่สุด”

เธอคลิกส่งและยื่นโทรศัพท์คืนให้ลุยซา

เคทลินได้ยินเสียงเอะอะ เธอหันไปมอง

กลุ่มของเด็กผู้หญิง ม. 6 ที่มีชื่อเสียงกำลังเดินตรงมาที่โถงทางเดิน พร้อมกับการซุบซิบ และจ้องมองไปที่คาเลป

นี่เป็นครั้งแรกที่เคทลินได้สัมผัสกับความรู้สึกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวของเธอ เธอสามารถมองเห็นความอิจฉาได้จากสายตาของเด็กผู้หญิงเหล่านั้น กลุ่มที่ไม่เคยเหลียวมองเธอเลยสักครั้งคงอยากจะขโมยคาเลปไป เด็กผู้หญิงพวกนี้เกาะแกะผู้ชายไปทั่วในโรงเรียน ผู้ชายคนไหนก็ตามที่พวกเธอต้องการ ไม่สำคัญว่าเขาจะมีแฟนอยู่แล้วหรือไม่ คุณทำได้เพียงแค่ภาวนาว่าพวกเธอจะไม่เหลียวมองมาที่ผู้ชายของคุณ

และตอนนี้พวกเธอทั้งหมดกำลังจ้องมาที่คาเลป

เคทลินหวังว่าคาเลปจะไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพวกเธอ เธอหวังว่าเขาจะยังคงชอบเธออยู่ แต่ยิ่งคิดมากเท่าไร เธอยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องทำอย่างนั้น เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงทั่วไป ทำไมเขาต้องมาอยู่กับเธอในเมื่อเด็กผู้หญิงพวกนี้ปรารถนาในตัวของเขา

เคทลินอ้อนวอนอยู่ในใจ ขอให้เด็กผู้หญิงเหล่านี้เดินผ่านไป เธอขอแค่ครั้งนี้

แต่แน่นอนว่าพวกเธอไม่ทำ หัวใจของเธอเต้นรัวในขณะที่กลุ่มของเด็กผู้หญิงตรงเข้ามา

“สวัสดีเคทลิน” หนึ่งในเด็กผู้หญิงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นมิตร

ทิฟฟานี่ รูปร่างสูง ผมบลอนด์ตรง ดวงตาสีน้ำเงิน และผอมบาง ตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนหลุดออกมาจากการออกแบบของดีไซเนอร์ “เพื่อนของเธอเป็นใครเหรอ?”

เคทลินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป ทิฟฟานี่และเพื่อนของเธอไม่เคยเสียเวลากับเธอเลย พวกเธอไม่เคยแม้แต่จะมองเห็นเคทลิน เธอรู้สึกตกใจมากที่เด็กผู้หญิงเหล่านี้รู้จักเธอและชื่อของเธอ ตอนนี้พวกเธอเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา เคทลินรู้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เด็กผู้หญิงพวกนี้ต้องการรู้เรื่องของคาเลป ต้องการรู้มากจนยอมพูดคุยกับเธออย่างถ่อมตัว

นี่เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

คาเลปคงรับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของเคทลิน เพราะเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ และวางแขนข้างหนึ่งลงบนไหล่ของเธอ

เคทลินไม่เคยรู้สึกยินดีมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

ด้วยความมั่นใจใหม่ที่ถูกค้นพบ เคทลินรู้สึกถึงความเข้มแข็งที่จะพูด “คาเลป” เธอตอบกลับไป

“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” เด็กผู้หญิงอีกคนถามขึ้น บันนี่เป็นภาพสะท้อนของทิฟฟานี่ เว้นแต่เธอมีผิวสีน้ำตาล “ฉันคิดว่าเธอจากไปแล้ว หรืออะไรทำนองนั้น”

“อืม ฉันกลับมาแล้ว” เคทลินตอบ

“แล้วเธอล่ะมาใหม่เหรอ?” ทิฟฟานี่ถามคาเลป “เธออยู่ ม. 6 เหรอ?”

คาเลปยิ้ม “ใช่ ฉันเพิ่งมาที่นี่” เขาตอบอย่างกำกวม

ดวงตาของทิฟฟานี่ส่องประกาย เมื่อเธอตีความว่านั่นหมายถึงคาเลปยังไม่คุ้นเคยกับโรงเรียน “เยี่ยม” เธอพูด “คืนนี้จะมีปาร์ตี้ที่บ้านของฉัน ถ้าเธออยากมา เชิญเฉพาะเพื่อนสนิทไม่กี่คน แต่เรายินดีที่จะเชิญนายและ…เอ่อ…เธอด้วย” ทิฟฟานี่พูด พร้อมมองมาที่เคทลิน

เคทลินรู้สึกถึงความโกรธที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวของเธอ

“ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะ” คาเลปตอบ “แต่เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่าเคทลินและฉันมีนัดสำคัญแล้วคืนนี้”

เคทลินรู้สึกว่าหัวใจของเธอพองโต

ชัยชนะ

เธอมองดูสีหน้าของพวกเด็กผู้หญิงที่พังทลายลงเหมือนแถวของโดมิโน่ เธอไม่เคยได้สัมผัสถึงชัยชนะอันท่วมท้นแบบนี้มาก่อน

กลุ่มเด็กผู้หญิงเชิดหน้าและเดินหลีกไป

เคทลิน คาเลป และลุยซา ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น เคทลินถอนหายใจออกมา

“สุดยอดเลย!” ลุยซาพูด “พวกผู้หญิงพวกนั้นไม่เคยเสียเวลากับใครมาก่อน หรือแม้แต่เสนอคำเชิญ”

“ฉันรู้” เคทลินพูด เธอยังคงงุนงง

“เคทลิน!” จู่ ๆ ลุยซาก็พูดขึ้น และเอื้อมมือมาคว้าแขนของเธอ “ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ซูซานได้พูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับแซม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซูซานบอกว่าช่วงนี้เห็นแซมติดพันอยู่กับพวกโคลแมน ฉันขอโทษ ฉันเพิ่งนึกออก บางทีมันอาจจะช่วยได้”

พวกโคลแมน แน่นอน นั่นคือที่ที่เขาจะอยู่

“แล้วก็” ลุยซาพูดต่ออย่างเร่งรีบ “คืนนี้พวกเราทุกคนจะรวมตัวกันที่แฟรงค์ส เธอต้องมานะ พวกเราคิดถึงเธอมาก พาคาเลปมาด้วย มันจะต้องเป็นปาร์ตี้ที่เยี่ยมมาก ๆ เด็กกว่าครึ่งห้องนัดกัน เธอต้องไปที่นั่นนะ”

“เอ่อ…ฉันไม่รู้…”

ระฆังดังขึ้น

“ฉันต้องไปแล้ว ฉันดีใจมากที่เธอกลับมา รักเธอนะ มีอะไรก็โทรมา บ๊ายบาย” ลุยซาพูด พร้อมโบกมือให้เคทลิน และรีบหันหลังเดินลงไปที่โถงทางเดิน

เคทลินปล่อยให้ตัวเธอเองนึกถึงชีวิตปกติ การออกไปสนุกกับเพื่อน ๆ การไปปาร์ตี้ การเรียนอยู่ในโรงเรียนธรรมดา ชีวิตที่กำลังจะจบการศึกษา เธอชอบความรู้สึกนั้น ชั่วครู่หนึ่ง เธอพยายามลบภาพเหตุการณ์ทั้งหมดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาออกจากใจของเธอ เธอบอกตัวเองไม่มีเรื่องร้ายอะไรเคยเกิดขึ้นเลย

แต่เมื่อมองเห็นคาเลป และความจริงก็ถาโถมเข้ามา ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง และจะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก เธอเพียงแค่ต้องยอมรับมัน

การฆ่าใครบางคน ตำรวจที่กำลังตามหาเธอ หรืออีกนานแค่ไหนกว่าที่ตำรวจจะจับเธอได้ที่ไหนสักแห่ง หรือความจริงที่ว่าเผ่าพันธุ์แวมไพร์ทั้งหมดกำลังออกตามหาเธอ หรือดาบที่เธอกำลังค้นหาเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้คนมากมาย

ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่มันเคยเป็น และไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอเพียงแค่ต้องยอมรับความจริงในตอนนี้ให้ได้

เคทลินวางมือของเธอไปที่แขนของคาเลป และพาเขามุ่งสู่ประตูหน้าโรงเรียน เธอรู้ดีว่าเขาที่ยังคงอยู่ที่นี่ และนั่นดูสมเหตุสมผล แซมอยู่กับพวกโคลแมน ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในโรงเรียน ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่นั่น

เมื่อทั้งคู่เดินออกไปยังประตูหน้า เคทลินสัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่น เธอประหลาดใจที่พบว่าเธอรู้สึกดีกับการเดินออกจากโรงเรียนมัธยมแห่งนี้อีกครั้ง…และครั้งนี้เธอจากไปด้วยดี

*

เคทลินและคาเลปเดินเข้าไปในพื้นที่ของครอบครัวโคลแมน หิมะบนหญ้าแตกละเอียดอยู่ใต้ฝ่าเท้า ตัวบ้านไม่มีอะไรมากนัก ไร่ปศุสัตว์ที่ค่อนข้างเล็กตั้งอยู่ริมถนนของชนบท แต่ด้านหลังเป็นที่ตั้งของโรงนา รถบรรทุกจอดกระจัดกระจายอยู่บนสนามหญ้า เคทลินมองดูรอยเท้าบนน้ำแข็งและหิมะ เธอรู้ได้ว่าต้องมีคนมากมายเดินเข้าออกโรงนาแห่งนี้

นั่นคือกิจกรรมของเด็ก ๆ ในโอ๊กวิลล์ พวกเขามักจะมาพบปะกันในโรงนา โอ๊กวิลล์เป็นพื้นที่ชนบทของชานเมือง ทำให้พวกเขามีโอกาสรวมตัวกันในสถานที่ที่ห่างไกลจากบ้านเพียงพอ ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่รู้และไม่สนใจว่าลูกของพวกเขากำลังทำอะไร มันดีกว่าการไปสุมหัวกันในชั้นใต้ดิน ที่นี่พ่อแม่ของคุณจะไม่ได้ยินอะไร และคุณจะมีทางเข้าออกเป็นของตัวเอง

เคทลินสูดหายใจลึก เธอเดินขึ้นไปยังโรงนาและเลื่อนบานประตูไม้ออก

สิ่งแรกที่เธอพบคือกลิ่นกัญชา และกลุ่มควันที่ลอยอยู่ในอากาศ

ผสมกับกลิ่นของเบียร์เก่าที่รุนแรงมาก

จากนั้นสิ่งที่เธอรับรู้มากกว่าทุกสิ่ง มันคือกลิ่นของสัตว์ เธอไม่เคยมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมเช่นนี้มาก่อน เธอตกใจที่สามารถรับรู้ได้ว่ามีสัตว์อยู่ที่นี่เพียงแค่ได้กลิ่น ราวกับว่าเธอกำลังดมแอมโมเนีย

เธอหันไปทางขวาและมองเข้าไป ตรงมุมห้องมีร็อตไวเลอร์ตัวใหญ่ มันลุกขึ้นอย่างช้า ๆ มองมาที่เธอและเริ่มส่งเสียงขู่คำรามอยู่ในลำคอ เธอจำมันได้แล้ว มันคือบุช ร็อตไวเลอร์ที่ดุร้ายของพวกโคลแมน ราวกับว่าโคลแมนต้องการเพิ่มสัตว์ที่ดุร้ายให้กับภาพลักษณ์ของพวกเขา

พวกโคลแมนมักจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ พี่น้องผู้ชายสามคนอายุ 17 15 และ 13 ปี อะไรบางอย่างทำให้แซมกลายเป็นเพื่อนกับเด็กคนกลาง เขาชื่อเกบ นิสัยแย่ที่สุดในบรรดาพี่น้อง พ่อของพวกเขาจากไปนานแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน และแม่ของพวกเขาไม่เคยเหลียวดู อันที่จริงพวกเขาเติบโตขึ้นมาด้วยตัวของพวกเขาเอง แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุเพียงแค่นี้ พวกเขามักจะเมา และอยู่นอกโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่

เคทลินรู้สึกหัวเสียที่แซมมาสุงสิงกับพวกเขา มันไม่เคยมีเรื่องอะไรดี ๆ เลย

ในโรงนากำลังเปิดเพลงของ พิงก์ พลอยด์ เสียงเพลงดังลอยมา Wish You Were Here

การค้นหา เคทลินคิด

ที่นี่มืดมาก เมื่อเทียบกับความสว่างภายนอก เธอต้องใช้เวลาหลายวินาทีเพื่อให้ดวงตาของเธอปรับภาพได้อย่างชัดเจน

เขาอยู่ที่นั่นเอง แซมกำลังนั่งอยู่ตรงกลางบนโซฟาตัวเก่า ล้อมรอบด้วยเด็กผู้ชายนับสิบคน เกบนั่งอยู่ข้างหนึ่งและบร็อคนั่งอยู่อีกข้าง

แซมก้มตัวดูดบ้องกัญชา เขาเพิ่งสูดมันเข้าไป เขาวางลงและเอนหลังพิง ดูดอากาศเข้าไปและกลั้นเอาไว้นานมาก จนในที่สุดเขาก็พ่นควันออกมา

เกบสะกิดเขา แซมเงยหน้าขึ้นมอง เขาจ้องมองมาที่เคทลินท่ามกลางหมอกควันสีขาว ดวงตาของเขาแดงก่ำ

เคทลินรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในท้อง ความรู้สึกของเธอตอนนี้เกินกว่าความผิดหวัง เธอรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ เธอนึกถึงครั้งสุดท้ายที่อยู่กับแซมในนิวยอร์ก การทะเลาะกัน เธอทำร้ายจิตใจของแซม คำพูดที่เธอตะโกนออกไป “ก็ไปสิ!” ทำไมเธอถึงเกรี้ยวกราดกับเขา? ทำไมเธอไม่มีโอกาสที่จะแก้ตัว?

Ваша оценка очень важна

0
Шрифт
Фон

Помогите Вашим друзьям узнать о библиотеке

Скачать книгу

Если нет возможности читать онлайн, скачайте книгу файлом для электронной книжки и читайте офлайн.

fb2.zip txt txt.zip rtf.zip a4.pdf a6.pdf mobi.prc epub ios.epub fb3

Популярные книги автора