แต่โรงนาว่างเปล่า
“สวัสดี?” แซมตะโกน แม้ว่าเขาจะทำอย่างนั้น ยังคงไร้เสียงตอบ
เขามองเห็นกองไฟมอดอยู่ในเตาไฟ เพิ่งดับไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว แต่ไม่มีวี่แววอะไรเลย หรือสิ่งใดที่แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงอยู่ที่นี่ เธอจากไปแล้ว บางทีเธออาจจะไปกับผู้ชายคนนั้น ทำไมเธอไม่รอ? ให้โอกาสเขา? เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง?
แซมรู้สึกราวกับมีแรงชกอันหนักหน่วงปะทะเข้าที่ท้อง พี่สาวของเขาไม่แม้แต่จะสนใจเขาเลย
เขานั่งลงบนกองฟาง กุมขมับด้วยมือของเขา อาการปวดหัวกำลังจะกลับมา เธอทำจริง ๆ เธอจากไปแล้ว เธอจะไม่กลับมาแล้วเหรอ? ลึกลงไปเขารู้สึกว่าเธอต้องทำเช่นนั้น
ในที่สุดแซมก็สูดหายใจลึก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เขารู้สึกว่าเขาจะต้องเข้มแข็ง เขาต้องอยู่เพียงลำพัง เขารู้ว่าจะต้องรับมืออย่างไร เขาไม่ต้องการใครอีกแล้ว
“สวัสดี”
เสียงของผู้หญิงที่ไพเราะนุ่มนวลดังขึ้น
แซมหันไป วินาทีนั้นเขาคาดหวังให้เป็นเคทลิน แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่เมื่อได้ยินอีกครั้ง มันคือเสียงที่ไพเราะมากที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยิน
เด็กผู้หญิงยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงนา เอนตัวพิงกำแพงด้วยท่าทางแบบสบาย ๆ เธอดูดีมาก ๆ ผมสีแดงยาวสลวย ดวงตาสีเขียวสว่าง รูปร่างที่สมบูรณ์แบบ และเธอดูเหมือนจะอายุเท่ากับเขา บางทีอาจจะอายุมากกว่าไม่กี่ปี เธอกำลังสูบบุหรี่
แซมยืนขึ้น
เขาแทบจะไม่เชื่อ แต่แววตาที่เธอมองมา ดูเหมือนเธอกำลังสนใจเขา เขาไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงคนไหนมองเขาแบบนี้มาก่อน เขาทึ่งในความโชคดีของตัวเอง
“ฉันชื่อซาแมนต้า” เธอพูดอย่างอ่อนหวาน ก้าวมาข้างหน้าและยื่นมือข้างหนึ่ง
แซมก้าวไปข้างหน้า และยื่นมือออกไปประกบกัน ผิวของเธอนุ่มมาก
เขากำลังฝันอยู่เหรอ? เด็กผู้หญิงคนนี้มาทำอะไรที่นี่ โผล่มาจากไหน? เธอมาที่นี่ได้อย่างไร? เขาไม่ได้ยินเสียงรถจอดเลย หรือได้ยินเสียงใครเดินมาที่โรงนา และเขาเพิ่งมาที่นี่ เขาไม่เข้าใจ
“ฉันชื่อแซม” เขาพูด
เธอยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันสีขาวที่เรียงตัวกันอย่างสมบูรณ์แบบ รอยยิ้มของเธอช่างเหลือเชื่อ แซมรู้สึกเหมือนเข่าอ่อนในขณะที่เธอมองมา