เรื่องแย่อีกอย่างคือธอร์รู้ว่าพวกพี่ชายรู้สึกว่าถูกเขาคุกคาม อาจจะเกลียดเขาด้วยซ้ำ ธอร์มองเห็นในสายตาที่จ้องมองมาทุกครั้ง ในท่าทางของพวกเขา ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่เขาคงจะไปกระตุ้นบางอย่างในตัวพวกนั้น เช่น ความกลัว ความริษยา หรืออาจจะเป็นเพราะธอร์แตกต่างจากพวกเขา หน้าตาไม่คล้ายกัน หรือไม่พูดจาภาษาเดียวกัน เขายังแต่งตัวไม่เหมือนพวกนั้นด้วย บิดาจะเก็บเสื้อคลุมที่ดีที่สุด สีม่วงและสีแดง อาวุธชุบทอง ไว้สำหรับพี่ชายของเขา ในขณะที่ธอร์ต้องใส่ผ้าขี้ริ้วซอมซ่อ
แต่ธอร์ก็ทำให้ดีที่สุดด้วยสิ่งที่เขามี พยายามหาทางทำให้ชุดของเขาพอดีตัว ด้วยการผูกสายรัดไว้ที่เอว แล้วหน้าร้อนเช่นเวลานี้ เขาตัดแขนเสื้อออกเพื่อที่แขนกำยำของเขาจะได้สัมผัสลมเย็น เสื้อของเขาเข้าชุดกับกางเกงลินินเนื้อหยาบ เพียงตัวเดียวของเขา กับรองเท้าบู้ทที่ทำจากหนังคุณภาพแย่ที่สุด พันรัดไว้กับหน้าแข้ง มันเทียบไม่ได้เลยกับหนังรองเท้าบู้ทของพวกพี่ชาย แต่ธอร์ก็ทำให้มันใช้งานได้ เสื้อผ้าของเขาเป็นเครื่องแบบปกติของคนเลี้ยงสัตว์
แต่ธอร์แทบจะไม่มีลักษณะของคนเลี้ยงสัตว์เลย เขาสูงและสมส่วน มีขากรรไกรที่แข็งแรง และคางบึกบึน โหนกแก้มสูง และดวงตาสีเทา ดูคล้ายกับนักรบที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง ผมสีน้ำตาลเหยียดตรงทิ้งตัวเป็นคลื่นอยู่บนศีรษะ ยาวระใบหูและต้นคอ ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนฝูงปลากระทบแสง
เช้าวันนี้พี่ชายของธอร์คงได้รับอนุญาตให้นอนตื่นสาย ได้รับประทานอาหารมีประโยชน์ แล้วถูกส่งไปรับการคัดเลือกพร้อมกับอาวุธที่ดีที่สุด และคำอวยพรของบิดา ในขณะที่ธอร์คงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม เขาพยายามจะพูดเรื่องนี้กับบิดาครั้งหนึ่ง มันไม่ค่อยดีนัก บิดารีบสรุปจบการสนทนา แล้วเขาก็ยังไม่ได้ลองอีก มันไม่ยุติธรรมเลย
ธอร์ตั้งใจจะปฏิเสธชะตากรรมที่บิดาวางแผนไว้ให้เขา เมื่อได้เห็นสัญญาณแรกของขบวนทหารหลวง เขาจะรีบวิ่งกลับไปบ้าน ไปเผชิญหน้ากับบิดา และไม่ว่าจะชอบหรือไม่ เขาจะเสนอตัวกับทหารของพระราชา ธอร์จะยืนให้เลือกพร้อมกับคนอื่น ๆ บิดาจะห้ามเขาไม่ได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกในท้องบิดเขม็งเป็นเกลียว
อาทิตย์ดวงแรกเคลื่อนสูงขึ้น และเมื่ออาทิตย์ดวงที่สองเริ่มฉายแสง สีเขียวมิ้นต์ เพิ่มชั้นแสงบนท้องฟ้าสีม่วง ธอร์ก็เห็นพวกนั้น
เขาผุดลุกขึ้น ขนลุกและตื่นเต้น ตรงขอบฟ้านั่น เห็นเป็นเงาร่างจาง ๆ ของรถม้า ล้อรถบดฝุ่นฟุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นเมื่อเห็นรถม้าอีกคัน และอีกคัน แม้จะมองจากตรงนี้ รถม้าสีทองก็เปล่งประกายในแสงอาทิตย์ เหมือนปลาหลังเงินกระโจนขึ้นจากน้ำ
เมื่อนับได้สิบสองคัน ธอร์ก็ทนรอต่อไปไม่ได้ หัวใจเขาเต้นรัวอยู่ในอก เขาลืมฝูงสัตว์เป็นครั้งแรกในชีวิต ธอร์หันหลังแล้วถลันลงเนินไป ตั้งใจว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะได้แนะนำตัว
*
ธอร์แทบจะไม่หยุดพักหายใจเลยระหว่างรีบวิ่งลงเนินมา วิ่งผ่านหมู่ไม้ โดนกิ่งก้านข่วนเอาแต่เขาก็ไม่สนใจ เขาวิ่งไปถึงที่โล่ง มองเห็นหมู่บ้านของเขาทอดตัวอยู่เบื้องล่าง หมู่บ้านชนบทที่ยังหลับใหล เต็มไปด้วยบ้านดินสีขาวชั้นเดียว หลังคามุงจาก มีเพียงไม่กี่สิบหลังคาเรือนในหมู่บ้าน ควันไฟลอยขึ้นจากปล่องไฟ เมื่อชาวบ้านส่วนใหญ่ตื่นแต่เช้า มาเตรียมอาหารเช้า มันเป็นสถานที่ในอุดมคติซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทของพระราชาพอที่จะกันคนสัญจรผ่านไปมา โดยต้องขี่ม้ากันหนึ่งวันเต็ม ๆ เป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรรมอีกแห่งตรงชายแดนของอาณาจักรวงแหวน เป็นซี่ล้ออีกซี่ในวงล้อของอาณาจักรตะวันตก
ธอร์กระโจนพรวดสุดท้ายเข้าไปในจัตุรัสของหมู่บ้าน เตะดินกระจายเมื่อวิ่งผ่านไป ไก่และสุนัขวิ่งหนีให้พ้นทางเขา หญิงชราคนหนึ่ง นั่งยอง ๆ อยู่นอกบ้านของเธอ ข้างหม้อน้ำที่กำลังเดือด ส่งเสียงขู่เขา
“ช้าลงหน่อย เจ้าหนู!” เธอตะโกนบอกเมื่อเขาวิ่งผ่าน เตะฝุ่นฟุ้งเข้าไปในเตาไฟของเธอ
แต่ธอร์ก็ไม่ได้ช้าลง ไม่ใช่เพื่อหญิงชรา หรือเพื่อใคร ๆ เขาเลี้ยวเข้าซอยหนึ่ง แล้วก็เลี้ยวไปอีกซอยหนึ่ง เลี้ยวไปมาตามทางที่เขาคุ้นเคย จนถึงบ้าน
มันเป็นบ้านหลังเล็ก ธรรมดาเหมือนบ้านหลังอื่น ๆ มีผนังและมุมสีขาว หลังคามุงจาก และเช่นเดียวกับบ้านหลังอื่น มันมีห้องเดียว ถูกแบ่งเป็นที่นอนของบิดาด้านหนึ่ง และของพวกพี่ชายอีกด้านหนึ่ง จะไม่เหมือนบ้านอื่นก็ตรงที่มีเล้าไก่เล็ก ๆ อยู่หลังบ้าน ที่นี่แหละคือที่ที่ธอร์ถูกเนรเทศให้มานอน ตอนแรกเขาก็นอนรวมกับพวกพี่ ๆ แต่นานวันพวกเขาเติบโตขึ้น ใจร้ายและปิดกั้นมากขึ้น แสดงออกให้เห็นว่าไม่ต้องการแบ่งที่ให้ธอร์ เด็กหนุ่มเคยเสียใจ แต่ตอนนี้เขากลับพอใจกับพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง พอใจที่ได้อยู่ห่างจากพวกพี่ ๆ นั่นยิ่งยืนยันว่าเขาเป็นคนนอกในครอบครัว ซึ่งเขารู้ดีอยู่แล้ว
ธอร์วิ่งมาถึงประตูหน้าและกระโจนพรวดเข้าไปโดยไม่หยุด
“ท่านพ่อ!” เขาตะโกน หอบหายใจ “กองรบเงิน! พวกเขามาถึงแล้ว!”
บิดาและพี่ชายทั้งสามคนของเขานั่งล้อมกันอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้า แต่งตัวเรียบร้อยด้วยชุดที่ดีที่สุด เมื่อสิ้นเสียงธอร์ ทั้งหมดผุดลุกขึ้น แล้วพุ่งผ่านเขาไป กระแทกไหล่ธอร์ตอนที่วิ่งออกจากบ้าน ไปยังถนน
ธอร์ตามออกมา เห็นทุกคนกำลังยืนมองขอบฟ้า
“ข้าไม่เห็นใครเลย” เดรค พี่ชายคนโตกล่าวเสียงต่ำ เขามีไหล่กว้างที่สุด ผมตัดสั้นเหมือนกับน้องชายคนอื่น ๆ ดวงตาสีน้ำตาล ริมฝีปากบางเบ้อย่างไม่ชอบใจ เขานิ่วหน้าใส่ธอร์ เหมือนปกติ
“ข้าก็ไม่เห็น” ดรอสส์พูดตาม เขาเด็กกว่าเดรคหนึ่งปี และมักจะเข้าข้างพี่ชาย
“พวกเขากำลังมา!” ธอร์โต้ “ข้าสาบาน!”
บิดาหันมาหาธอร์ แล้วคว้าไหล่เขาแน่น
“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร?” บิดาถาม
“ข้าเห็นพวกเขา”
“อย่างไร? จากที่ไหน?”
ธอร์ลังเล บิดาต้อนเขาจนมุม แน่นอนว่าบิดารู้อยู่แล้วว่าสถานที่เดียวที่ธอร์จะสามารถมองเห็นกองรบเงินจะต้องเป็นจากบนยอดเนินข้างบนนั่น ตอนนี้ธอร์ไม่แน่ใจว่าเขาควรตอบอย่างไร
“ข้า...ปีนขึ้นไปบนเนิน...”
“กับฝูงสัตว์อย่างนั้นหรือ? เจ้าก็รู้ว่าพวกมันไม่ควรไปไกลขนาดนั้น”
“แต่วันนี้มันพิเศษ ข้าต้องการเห็น”
บิดาถลึงตามองเขา
“เข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้ แล้วหยิบดาบของพี่เจ้า เอาฝักดาบไปขัดให้เงาที่สุดก่อนที่ทหารของพระราชาจะมาถึง”
บิดาจบเรื่องกับเขาแล้ว หันกลับไปหาพวกพี่ชายที่กำลังยืนชะเง้ออยู่ที่ถนน
“ท่านพ่อคิดว่าพวกเขาจะเลือกเราไหม?” เดิร์สถาม เขาเป็นคนเล็กสุดในบรรดาพี่ชายสามคน แก่กว่าธอร์สามปีเต็ม
“พวกเขาคงโง่เขลาถ้าไม่ทำอย่างนั้น” บิดาบอก “ปีนี้พวกนั้นขาดกำลังพล ทหารเหลือน้อย ไม่อย่างนั้นจะลำบากมาถึงที่นี่ทำไมกัน พวกเจ้าสามคนแค่ยืนตรง เชิดหน้า ยืดอก อย่าจ้องตาพวกเขา แต่ก็อย่าหลบตาด้วย จงเข้มแข็งและมั่นใจ อย่าแสดงความอ่อนแอ ถ้าเจ้าอยากเข้าร่วมในกองทหารของพระราชา เจ้าต้องทำตัวให้เหมือนว่าเจ้าเป็นทหารแล้ว”
“ครับ ท่านพ่อ” พี่ชายสามคนของเขาตอบพร้อมกัน แล้วเข้าประจำตำแหน่ง
บิดาหันมามองธอร์
“ทำไมเจ้าถึงยังอยู่ตรงนี้?” บิดาถาม “เข้าไปข้างใน!”
ธอร์ยืนนิ่ง ใจสลาย เขาไม่อยากจะขัดคำสั่งบิดา แต่เขาต้องพูด หัวใจเขาเต้นรัวเมื่อคิดค้าน เด็กหนุ่มตัดสินใจว่าการเชื่อฟังคงจะดีที่สุด ไปหยิบดาบ แล้วจากนั้นค่อยมาคุยกับบิดา การขัดคำสั่งทันทีคงไม่ช่วยอะไร
ธอร์วิ่งเข้าไปในบ้าน วิ่งออกด้านหลังไปยังตู้เก็บอาวุธ เขาเจอดาบของพี่ชายทั้งสาม พวกมันเป็นดาบที่สวยงาม ด้ามดาบทำจากเงินเนื้อดีที่สุด เป็นของขวัญล้ำค่าที่บิดาต้องทำงานตรากตรำหลายปี เขาคว้าดาบทั้งสามเล่มมา ประหลาดใจเหมือนเช่นเคยกับน้ำหนักของพวกมัน แล้ววิ่งกลับไปยังหน้าบ้าน
ธอร์พุ่งไปหาพี่ชาย ส่งดาบให้ แล้วหันกลับมาหาบิดา
“อะไรกัน ไม่ได้ขัดหรือ?” เดรคถาม
บิดาหันมาอย่างไม่พอใจ แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร ธอร์ก็ชิงพูดขึ้น
“ท่านพ่อ ได้โปรด ข้าต้องพูดกับท่าน!”
“ข้าบอกให้เจ้าขัด....”
“ได้โปรด ท่านพ่อ!”
บิดาจ้องมาอย่างไม่เห็นด้วย แต่คงจะเห็นความจริงจังบนใบหน้าของธอร์ เพราะในที่สุด บิดาก็พูดออกมาว่า “ว่าอย่างไร?”
“ข้าอยากเข้ารับการคัดเลือกเข้ากองทหาร พร้อมกับคนอื่น ๆ”
พี่ชายทั้งสามหัวเราะขึ้นด้านหลังเขา ทำให้ธอร์หน้าแดง
แต่บิดาไม่ได้หัวเราะ ตรงกันข้ามใบหน้ากลับบึ้งตึงมากขึ้น
“เจ้าอยากอย่างนั้นหรือ?” บิดาถาม
ธอร์พยักหน้าอย่างจริงจัง
“ข้าอายุสิบสี่ปีแล้ว ข้ามีคุณสมบัติ”
“เขาจำกัดที่อายุสิบสี่ปี” เดรคบอกอย่างดูถูกข้ามไหล่มา “แต่ถ้าพวกเขารับเจ้า เจ้าคงจะเด็กที่สุด แล้วเจ้าคิดว่าพวกเขาจะเลือกเจ้าแทนที่คนอย่างข้า ที่แก่กว่าเจ้าห้าปีอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้ามันอวดดี” เดิร์สบอก “เหมือนที่เป็นเสมอ”
ธอร์หันไปหาพวกเขา “ข้าไม่ได้ขอเจ้า” เขาบอก
เขาหันมาหาบิดาที่ยังคงนิ่วหน้า
“ท่านพ่อ ได้โปรด” เขากล่าว “ให้โอกาสข้าเถอะ ข้าขอเพียงเท่านี้ ข้ารู้ว่าข้ายังเด็ก แต่ข้าจะพิสูจน์ตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป”
บิดาสั่นศีรษะ
“เจ้าไม่ใช่ทหาร ลูกชาย เจ้าไม่เหมือนพี่ชายของเจ้า เจ้าเป็นคนเลี้ยงสัตว์ ชีวิตของเจ้าอยู่ที่นี่ กับข้า เจ้าต้องทำหน้าที่ของเจ้า และต้องทำให้ดีด้วย คนเราไม่ควรจะฝันให้สูงเกินไป ยอมรับชีวิตของเจ้าเสีย แล้วเรียนรู้ที่จะรักมัน”
ธอร์รู้สึกใจสลายเมื่อเห็นชีวิตของเขาพังไปต่อหน้าต่อตา
ไม่ เขาคิด มันจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้
“แต่ท่านพ่อ....”
“เงียบเถอะ!” บิดาตะโกนก้องฝ่าอากาศ “พอได้แล้ว พวกเขามานั่นแล้ว หลบไปให้พ้นทาง แล้วก็ทำตัวให้ดีที่สุดตอนที่พวกเขามาที่นี่ด้วย”
บิดาก้าวไปข้างหน้า ใช้มือหนึ่งผลักธอร์ไปด้านข้างราวกับเขาเป็นวัตถุที่ไม่อยากเห็น ฝ่ามือหนาของบิดาดันเข้าที่อกธอร์
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ชาวบ้านพากันออกจากบ้านมาเข้าแถวอยู่ที่ถนน ฝุ่นฟุ้งกระจายบอกให้รู้ถึงการมาของขบวนทหาร หลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึง รถม้าสิบสองคันมาพร้อมกับเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า
พวกทหารเข้ามาในเมืองเหมือนกับกองกำลังจู่โจม มาหยุดอยู่ใกล้บ้านของธอร์ ม้าของพวกเขาเหยาะย่างมา ส่งเสียงฟืดฟาด กว่าฝุ่นจะจางก็กินเวลาพักหนึ่ง ธอร์กระวนกระวายพยายามแอบดูอาวุธและชุดเกราะของพวกเขา เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นกองรบเงินใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน เขารู้สึกใจเต้น
นายทหารที่อยู่บนหลังม้าตัวหน้าสุดลงจากหลังม้า นี่ไงทหารของกองรบเงินตัวจริง ในชุดเสื้อเกราะแวววาว ห้อยดาบยาวที่เอว เขาดูอายุราวสามสิบปี เป็นชายฉกรรจ์ ที่มีเคราบนใบหน้า มีแผลเป็นที่แก้ม และจมูกบิดเบี้ยวจากการสู้รบ เขาเป็นผู้ชายที่ดูแข็งแกร่งที่สุดที่ธอร์เคยพบ ลำตัวใหญ่กว่าคนอื่นสองเท่า มีท่าทางที่บอกว่าเขาเป็นหัวหน้า