Морган Райс - เส้นทางแห่งวีรบุรุษ стр 9.

Шрифт
Фон

นั่นคือทั้งหมดที่ธอร์ต้องการได้ยิน เขาหันหลังวิ่งข้ามสนาม ไปตามคำบอกโดยไม่รอช้า ทบทวนทิศทางอยู่ในใจ พยายามจดจำมัน เขาสังเกตว่าดวงอาทิตย์เคลื่อนสูงขึ้น ได้แต่ภาวนาว่าเมื่อเขาไปถึง มันจะยังไม่สายเกินไป

*

ธอร์รีบวิ่งไปตามถนนสะอาดที่วางเปลือกหอยเป็นแนว เลี้ยวไปมาไปตามทางในเขตปราสาท เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะไปตามทางที่รู้มา และหวังว่าเขาจะไม่หลงทาง ที่อีกฟากของสนาม เขาเห็นประตูทั้งหมด แล้วเลือกบานที่สามทางซ้าย เขาวิ่งผ่านเข้าไปแล้วไปตามทางแยก วิ่งไปตามทางแล้วทางเล่า ธอร์วิ่งฝ่าฝูงชน ผู้คนนับพันหลั่งไหลเข้ามาในเมือง ฝูงชนหนาแน่นขึ้นทุกนาที ไหล่เขากระแทกกับนักเล่นพิณ นักมายากล ตัวตลก และผู้ให้ความบันเทิงทุกรูปแบบ ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงาม

ธอร์ทนไม่ได้เมื่อคิดว่าการคัดเลือกเริ่มต้นไปแล้วโดยไม่มีเขา พยายามตั้งสมาธิขณะที่เลี้ยวไปตามทาง มองหาสัญลักษณ์ใด ๆ ของสนามฝึก เขาวิ่งผ่านประตูหินโค้ง เลี้ยวไปตามถนนอีกสาย และที่มองเห็นอยู่ไกล ๆ นั่นคือจุดหมายปลายทางของเขา อัฒจันทร์ขนาดเล็ก สร้างจากหินเป็นรูปวงกลมสมบูรณ์ มีทหารยืนเฝ้ายามที่ประตูขนาดใหญ่ตรงกลาง ธอร์ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีแว่วดังมาจากด้านหลังกำแพงแล้วใจเต้นรัว เขามาถูกที่แล้ว

ธอร์วิ่งเร็วจนหายใจไม่ทัน เมื่อเขาไปถึงประตู ทหารยามสองนายก้าวออกมาแล้วลดหอกของพวกเขาลงขวางทางไว้ ทหารยามคนที่สามก้าวมา ยกมือขึ้นห้าม

“หยุดอยู่ตรงนั้น” เขาสั่ง

ธอร์หยุดทันที หอบหายใจ แทบจะระงับความตื่นเต้นไม่ได้

“ท่าน...ไม่...เข้าใจ” เขาหอบ ตะกุกตะกักคำพูดออกมาระหว่างพยายามหายใจ “ข้าต้องเข้าไปข้างใน ข้ามาช้าแล้ว”

“ช้าสำหรับอะไร?”

“การคัดเลือก”

ทหารยามร่างเตี้ยล่ำมีผิวตะปุ่มตะป่ำ หันไปมองเพื่อน ที่มองกลับมาอย่างดูถูก เขาหันกลับมามองสำรวจธอร์ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“พวกเกณฑ์ใหม่ถูกพาเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้ว มากับรถม้าหลวง ถ้าเจ้าไม่ได้รับเชิญ ก็เข้าไปไม่ได้”

“แต่ท่านไม่เข้าใจ ข้าต้อง...”

ทหารยามยื่นมือมาคว้าเสื้อของธอร์

“เจ้าสิไม่เข้าใจ เจ้าเด็กอวดดี กล้าดียังไงถึงมาที่นี่และพยายามจะบุกเข้าไป? ไปได้แล้ว ก่อนที่ข้าจะจับล่าม”

เขาผลักธอร์ กระเด็นถอนหลังไปหลายฟุต

ธอร์เจ็บที่อกตรงที่ถูกทหารยามผลัก แต่ยิ่งกว่านั้นคือเจ็บที่ถูกปฏิเสธ เขารู้สึกโกรธ เขาไม่ได้มาไกลขนาดนี้เพื่อถูกปฏิเสธจากทหารยามโดยที่ยังไม่ได้เข้าไปแสดงตัว เขาตั้งใจที่จะเข้าไปข้างในให้ได้

ทหารยามนายนั้นหันกลับไปหาเพื่อน ธอร์เดินจากมาช้า ๆ เขาเดินตามเข็มนาฬิกาไปรอบอาคารรูปวงกลม เด็กหนุ่มมีแผนอยู่ในใจ เขาเดินไปจนพ้นสายตา จากนั้นจึงวิ่งเหยาะ ๆ เลาะไปตามกำแพง เขาหันไปดูให้แน่ใจว่าไม่มีทหารยามกำลังมอง แล้วจึงเร่งฝีเท้าขึ้นเต็มกำลัง เมื่อไปได้ครึ่งทางเขาสังเกตเห็นอีกช่องทางเข้าไปในสนาม สูงขึ้นไปมีช่องโค้งในกำแพงหิน มีลูกกรงเหล็กกั้นไว้ แต่มีช่องหนึ่งที่ลูกกรงเหล็กหายไป เขาได้ยินเสียงโห่ร้องดังขึ้นอีก ธอร์โหนตัวขึ้นไปแล้วมอง

หัวใจเขาเต้นรัวเร็ว ที่เห็นอยู่ภายในสนามฝึกขนาดใหญ่คือพลที่เกณฑ์มาใหม่หลายสิบคน รวมทั้งพวกพี่ชายของเขา กำลังเข้าแถว พวกนั้นยืนอยู่ต่อหน้าทหารกองรบเงินสิบสองนาย มีทหารเดินตรวจแถวเพื่อประเมิน

พวกที่เกณฑ์ใหม่อีกกลุ่มยืนอยู่อีกด้าน มีทหารนายหนึ่งเฝ้าดูอยู่ พวกนั้นกำลังขว้างหอกไปที่เป้าที่อยู่ห่างออกไป มีคนหนึ่งขว้างพลาด

เลือดของธอร์ร้อนผ่าวด้วยความขุ่นเคือง เขาสามารถขว้างโดนเป้าพวกนั้นได้ เขาก็เก่งไม่น้อยไปกว่าพวกนั้น เพียงแค่เขาเด็กกว่า ตัวเล็กกว่า มันไม่ยุติธรรมเลยที่เขาถูกกันออกมา

ทันใดนั้น ธอร์รู้สึกว่ามีมือบนหลังเขาและถูกดึงลอยลงมา กระแทกพื้นแข็งด้านล่างจนจุกแอ้ด

เขามองขึ้นมาเห็นทหารยามจากหน้าประตู กำลังยิ้มเยาะ

“ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไรเจ้าหนู?”

ก่อนที่เขาจะทันมีปฏิกิริยาอย่างไร ทหารยามเอนตัวแล้วเตะธอร์อย่างแรง เขารู้สึกถึงแรงกระแทกที่ซี่โครง ขณะที่ทหารยามเตรียมจะเตะเขาอีกครั้ง

คราวนี้ ธอร์ยึดขาของทหารยามไว้ได้กลางอากาศ เขาผลัก ทำให้ทหารเสียการทรงตัวแล้วล้มลง

ธอร์รีบลุกขึ้นยืน ในขณะเดียวกัน ทหารยามก็ลุกขึ้นยืนด้วย ธอร์จ้องมองเขา ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป ทหารถลึงตาใส่เขา

“ข้าไม่เพียงแต่จะล่ามเจ้าเท่านั้น” ทหารยามขู่ “แต่ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ ไม่มีใครแตะต้องทหารของพระราชาได้ ลืมไปเลยเรื่องการเข้าร่วมกองทหารยุวชนของเจ้า ตอนนี้เจ้าต้องถูกเฉดไปอยู่ในคุกใต้ดิน! เจ้าคงจะโชคดีถ้าได้ออกมาให้ใครพบเจออีก!”

ทหารยามดึงโซ่ตรวนของเขาออกมา แล้วก้าวเข้าหาธอร์ มีความเคียดแค้นบนใบหน้า

ธอร์รีบคิด เขายอมให้ตัวเองถูกตีตรวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะทำร้ายทหารยาม เขาต้องคิดหาทางอื่น และต้องคิดให้เร็วด้วย

เด็กหนุ่มนึกถึงหนังสติ๊กของเขา สัญชาตญาณเข้าควบคุมเมื่อเขาคว้ามันขึ้นมา ใส่ลูกหิน เล็งแล้วยิง

ลูกหินแหวกอากาศไปกระแทกโซ่ตรวนหลุดจากมือทหารยามที่กำลังตกตะลึง มันยังกระแทกโดนนิ้วของเขาด้วย ทหารยามผงะและสะบัดมือ ตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่โซ่ตรวนหล่นไปกองที่พื้น

ทหารมองธอร์อย่างหมายหัว เขาชักดาบออกมา เป็นดาบแบบพิเศษที่มีห่วงโลหะ

“นั่นเป็นความผิดพลาดอย่างสุดท้ายของเจ้า” เขาขู่อย่างน่ากลัวแล้วพุ่งเข้าใส่

ธอร์ไม่มีทางเลือก ทหารนายนี้คงไม่ปล่อยเขาแน่ เด็กหนุ่มใส่ลูกหินอีกลูกในหนังสติ๊กแล้วง้าง เขาเล็งอย่างตั้งใจ ไม่ต้องการสังหารทหารยาม แต่ก็ต้องหยุดเขาให้ได้ ดังนั้นแทนที่จะเล็งไปยังหัวใจ จมูก ตา หรือศีรษะ ธอร์จึงเล็งไปยังบริเวณที่เขารู้ว่าจะหยุดทหารนายนี้ได้โดยไม่ฆ่าเขา

ที่หว่างขาของทหารยามนั่นเอง

เด็กหนุ่มยิงลูกหินออกไป โดยออมกำลังไว้แต่ก็แรงพอที่จะล้มทหารได้

มันตรงเผงเข้าเป้า

ทหารยามทรุดลง ทิ้งดาบ กุมเป้าลงไปนอนงอก่องอขิงบนพื้น

“เจ้าจะต้องถูกแขวนคอ!” เขาคำรามออกมา ทั้งที่เจ็บปวด “ทหาร! ทหาร!”

ธอร์เงยหน้าขึ้น เห็นทหารยามอีกหลายนายกำลังวิ่งมาทางเขา

ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ก็คงจะหมดโอกาส

เขาไม่ยอมเสียเวลาอีก รีบวิ่งไปยังช่องเปิดบนกำแพง เด็กหนุ่มต้องกระโดดผ่านช่องนั้นเข้าไปภายในสนาม แล้วแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จัก เขาจะสู้กับทุกคนที่ขวางทาง

บทที่ 5

ราชาแม็คกิลประทับอยู่ที่ท้องพระโรงด้านบนในปราสาท ในท้องพระโรงส่วนพระองค์ ห้องที่ทรงใช้เพื่อกิจการส่วนพระองค์ ประทับอยู่บนบัลลังก์ที่ทำจากไม้แกะสลัก ทอดเนตรมองโอรสธิดาทั้งสี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เคนดริค โอรสองค์โตสุด อายุยี่สิบห้าปี เป็นนักรบที่ดีและเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริง ในบรรดาลูกทุกคน เขาเหมือนราชาแม็คกิลมากที่สุด ซึ่งนั่นช่างน่าแปลก เพราะเคนดริคเป็นลูกนอกสมรสที่เกิดกับหญิงนางหนึ่ง ที่ทรงลืมไปนานแล้ว ราชาแม็คกิลทรงเลี้ยงเคนดริคร่วมกับโอรสธิดาองค์อื่น ๆ แม้ในตอนแรกราชินีจะคัดค้าน โดยทรงยื่นเงื่อนไขว่าพระราชาจะต้องไม่มอบบัลลังก์ให้เขา ในตอนนี้เงื่อนไขนั้นกลับทำให้พระองค์ทรงเจ็บปวด เนื่องจากเคนดริคเป็นชายหนุ่มที่ดีที่สุดที่ทรงรู้จัก เป็นลูกชายที่พ่อควรภาคภูมิใจ ไม่มีใครเหมาะสมจะเป็น

รัชทายาทมากไปกว่าเขา

คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กาเร็ธ เป็นบุตรคนที่สองแต่เป็นบุตรคนแรกที่เกิดจากการสมรส เขาอายุยี่สิบสามปี ผอมบางมีแก้มตอบและดวงตาโตสีน้ำตาลลอกแลก บุคลิกของเขาแตกต่างจากพี่ชายคนโตของเขาเป็นอย่างมาก กาเร็ธไม่มีลักษณะใด ๆ เหมือนเคนดริคเลย พี่ชายเป็นคนตรงไปตรงมา ส่วนกาเร็ธจะซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ เคนดริคเป็นคนที่มีความภาคภูมิและทระนง แต่กาเร็ธเป็นคนไม่ซื่อสัตย์และไม่จริงใจ พระราชาแม็คกิลทรงเจ็บปวดที่รู้สึกไม่ชอบโอรสของตนเอง และทรงพยายามหลายต่อหลายครั้งที่จะแก้นิสัยของโอรส แต่หลังจากช่วงหนึ่งในสมัยวัยรุ่นของโอรส ทรงตัดสินพระทัยว่านิสัยของโอรสคนนี้ถูกชะตากำหนดมาแล้ว ทั้งเจ้าเล่ห์เพทุบาย หิวอำนาจและทะเยอทะยานในทุกทางที่ผิด นอกจากนี้พระองค์ยังทรงรู้ว่ากาเร็ธไม่มีความรักให้แก่สตรี และยังมีชายคู่รักมากมาย หากเป็นราชาองค์อื่นคงจะขับไล่โอรสเช่นนี้ไปแล้ว แต่ราชาแม็คกิลทรงใจกว้างกว่านั้น นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่รักลูกชาย พระองค์ไม่ได้ตัดสินเขาจากเรื่องนี้ สิ่งที่พระองค์นำมาตัดสินคือความชั่วร้าย และเจ้าเล่ห์ของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงมองข้ามไปไม่ได้

บุตรคนที่ยืนต่อจากกาเร็ธคือธิดาคนที่สอง เกว็นโดลีน นางเพิ่งอายุครบสิบหกปี เป็นสตรีที่งดงามที่สุดที่พระองค์เคยทอดพระเนตร และลักษณะนิสัยของนางยิ่งโดดเด่นกว่ารูปโฉม นางจิตใจดี มีเมตตาและเอื้อเฟื้อ เป็นสตรีที่ดีที่สุดที่ทรงรู้จัก ในเรื่องนี้นางมีคุณสมบัติเทียบเท่าเคนดริค นางมองดูราชาแม็คกิลด้วยความรักที่บุตรีจะมีต่อบิดา และพระองค์ทรงรู้สึกได้ถึงความจงรักภักดีในแววตานั้น ทรงภาคภูมิใจในตัวธิดาคนนี้ยิ่งกว่าโอรสทั้งหลายเสียอีก

คนที่ยืนต่อจากเกว็นโดลินคือ รีส โอรสคนเล็กสุด เด็กหนุ่มอายุสิบสี่ปีที่มีความทระนงและมุ่งมั่น กำลังจะเติบโตเป็นชายหนุ่ม ราชาแม็คกิลทรงพอใจอย่างยิ่งที่โอรสได้เข้าร่วมในกองทหารยุวชน และทรงมองออกแล้วว่าเขาจะเติบโตเป็นผู้ชายแบบไหน พระองค์ไม่สงสัยเลยว่าวันหนึ่ง รีสจะเป็นโอรสที่ดีที่สุดของพระองค์ เป็นผู้ปกครองที่ดี แต่ยังไม่ถึงเวลานั้น เขายังเด็กเกินไป ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

พระราชาแม็คกิลทรงสับสนขณะที่สำรวจตรวจตราโอรสธิดาทั้งสี่ ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทรงภาคภูมิใจระคนผิดหวัง ทั้งขุ่นเคืองและรำคาญ เนื่องจากมีบุตรอีกสองคนหายไป ลูอันดา ธิดาองค์โต ซึ่งแน่นอนว่าคงกำลังเตรียมตัวสำหรับงานอภิเษก และการที่นางกำลังจะแต่งงานออกเรือนไปอยู่อาณาจักรอื่น นางจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคัดเลือกรัชทายาท แต่ก็อดฟรีย์ โอรสคนกลางวัยสิบแปดปี ก็หายตัวไป ราชาแม็คกิลทรงหน้าแดงด้วยความกริ้ว

นับตั้งแต่ก็อดฟรีย์ยังเป็นเด็ก เขาก็แสดงความไม่สนใจในราชบัลลังก์ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนมาตลอดว่าเขาไม่สนใจและไม่ต้องการ และที่ราชาแม็คกิลทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งคือการที่ก็อดฟรีย์เลือกที่จะทิ้งชีวิตไปในโรงเหล้ากับเพื่อนเสเพล ทำให้ราชวงศ์ต้องอับอายและไร้เกียรติ เขาเป็นคนเกียจคร้าน นอนเกือบทั้งวัน เวลาที่เหลือก็หมดไปกับการดื่มเหล้า ใจหนึ่งทรงโล่งอกที่เขาไม่มาอยู่ที่นี่ด้วย แต่อีกใจทรงรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่น ที่จริงทรงคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว และได้ส่งทหารออกไปค้นหาตามโรงเหล้าแล้วนำตัวกลับมา พระราชาประทับอยู่เงียบ ๆ รอคอยจนกระทั่งพวกทหารกลับมาถึง

Ваша оценка очень важна

0
Шрифт
Фон

Помогите Вашим друзьям узнать о библиотеке

Скачать книгу

Если нет возможности читать онлайн, скачайте книгу файлом для электронной книжки и читайте офлайн.

fb2.zip txt txt.zip rtf.zip a4.pdf a6.pdf mobi.prc epub ios.epub fb3

Популярные книги автора