ดาจ้องมองไปที่หลานสาวของเธอ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยในร่างกายของเธอ จ้องไปที่มือของเธอเองสักสองสามวินาที และจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองดินอีกครั้ง
“เธอมาขอคำแนะนำเกี่ยวกับคนอื่นอย่างนั้นหรือ กรุณาถามคำถามของเธอมา” ดาพูด แต่ด้วยน้ำเสียงทุ้ม เข้ม และดังก้องโดยที่ไม่มีใครเคยได้ยินจากภายนอกกระท่อมหลังนั้น
การแปลงร่างนั้นทำให้ดินตกใจเหมือนอย่างที่เคย เมื่อป้าของเธอตกอยู่ในภวังค์ และอนุญาตให้พลังงานอื่นเข้าควบคุมร่างกายของเธอ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปไม่มากนัก แม้ว่ามันจะเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่ทั้งร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างน่าฉงนในลักษณะเดียวกับที่นักแสดง หรือนักเลียนแบบสามารถเปลี่ยนบุคลิกให้เหมาะสมกับตัวละครที่เขากำลังเล่นอยู่ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น ราวกับว่าภายในของดาถูกสิงด้วยใครบางคน ซึ่งทำให้เธอไม่เพียงแต่ดูแตกต่างออกไปจากเดิม แต่น้ำเสียงก็ฟังดูแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน
ดินมองไปที่หมอผีคนเก่าที่ไม่ใช่ป้าของเธออีกต่อไป
“ท่านหมอผี พ่อของฉันป่วยหนักมาก ฉันต้องการทราบว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร และเราจะแก้ไขยังไงได้บ้าง”
“ใช่ บิดาของเธอ คนที่เธอเรียกว่า ‘พ่อ’ ”
ใครคนนั้น ป้าของเธอ น้ำเสียงฟังดูคล้ายผู้ชายในขณะนี้เอามือจับห่อแต่ละห่อที่เฮงทิ้งไว้เมื่อวันก่อน แล้วปิดตาป้าของเธอลง มีบางอย่างที่ดูเหมือนจะทำให้ดินหยุดชะงักไปครู่ใหญ่ และมีอาการดำดิ่ง ที่เธอจะบอกได้ว่าเธอสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าป้าเดินบนพื้นโคลนแข็ง ๆ เสียด้วยซ้ำ
ดินเคยเข้าร่วมพิธีการแบบนี้มาแล้วสิบกว่าครั้ง แม้ว่าที่ผ่านมามันไม่ได้มีอะไรน่ากังวลเท่าครั้งนี้ก็ตาม เธอเคยถามเรื่องโรคเกี่ยวกับช่องท้องมาแล้วครั้งหนึ่งราว ๆ เมื่อ 2-3 ปีก่อน และล่าสุดเธอได้มาสอบถามว่าจะได้แต่งงานเร็ว ๆ นี้หรือไม่ เธอไม่กลัวบรรยากาศหรอกนะ แต่คือผลลัพธ์ต่างหากเล่า แต่เธอรู้ว่าเธอทำได้เพียงแค่นั่งรอ และสังเกตการณ์ เพราะเธอคพบว่ามันดูน่าสนใจ
หมอผีแกะห่อแรกที่มีหินออกอย่างช้า ๆ ตรวจดูอย่างระมัดระวัง ดมกลิ่นแล้วนำกลับไปวางบนใบตอง จากนั้นหยิบใบไม้ที่ห่อตะไคร้น้ำขึ้นมาดมก่อนจะวางลงบนเสื่อข้างหน้าของเธอ
หมอผีจ้องมองมาที่ดินอย่างเคร่งขรึม และหลังจากนั้นไม่กี่นาที ก็พูดขึ้นว่า
“บุคคลที่เธอกำลังกังวลใจอยู่นี่ กำลังป่วยหนัก ในความเป็นจริงเขาเข้าใกล้ความตายมากขึ้นทุกที เมื่อเขาให้ตัวอย่างเหล่านี้มา แต่เขายังไม่ตาย… อวัยวะภายในของเขาบางส่วน โดยเฉพาะความสะอาดของโลหิตนั้นอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่มาก… สิ่งที่เธอเรียกว่าว่า ไต ในภาษาไทยหยุดทำงานโดยสิ้นเชิง และตับเริ่มเสื่อมอย่างรวดเร็ว
“นั่นหมายความว่า ความตายกำลังใกล้เข้ามา ไม่มีวิธีการรักษาทางการแพทย์ที่เป็นที่รู้จัก”
หมอผีตัวสั่นอีกครั้ง และแปลงร่างกลับไปเป็นป้าดาคนเก่าที่กระพริบตาสองสามครั้ง และดิ้นเล็กน้อยราวกับว่ากำลังใส่ชุดตัวเล็กตัวเก่า แล้วขยี้ตา
“มันไม่ใช่ข่าวดีใช่ไหมลูก เธอรู้ดีว่าเมื่อฉันถูกสิงร่าง ฉันไม่สามารถได้ยินอะไรทั้งสิ้น แต่ฉันพอจับใจความได้บ้าง และฉันเห็นว่าใบหน้าของเธอไม่สู้ดีนักเกี่ยวกับเรื่องของพ่อเธอ”
“พระวิญญาณบอกว่า พ่อคงจะตายในไม่ช้านี้ อย่างที่ไม่มีการรักษาทางการแพทย์ได้ เพราะภาวะไตและตับเสื่อม…”
“ฉันเสียใจนะ ดิน เธอรู้หรือไม่ว่าฉันรักพ่อของเธอมาก… ฟังนะ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันได้ค้นพบเทคนิคพิเศษอะไรบางอย่างเมื่อหลายปีมาแล้วว่านอกเหนือจากการถูกสิงสู่ ตอนนี้ดูตรงนี้… ใช่ หิน… ดูตรงที่พ่อเธอบ้วนน้ำลายลงบนนั่น ไม่มีร่องรอยอะไรเลย! นั่นหมายความว่าไม่มีเกลือในน้ำลายของเขา ไม่มีเกลือแร่ ไม่มีวิตามิน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เป็นแค่เพียงน้ำเปล่า
“ตรงนี้ ตะไคร้น้ำ” เธอดมมันห่าง ๆ แล้วเอาเข้ามาใกล้จมูกสิ “เหมือนกัน! ดมอันนี้!” เธอถือมันออกมาให้ดินดม แต่ดินไม่เต็มใจที่จะดมกลิ่นปัสสาวะของพ่อเธอนัก “ดมสิ มันไม่กัดเธอหรอก!” ดากล่าว ดินทำตามที่เธอเชื้อเชิญ
“ไม่มีกลิ่นอะไรเลย มีเพียงแค่ตะไคร้น้ำ”
“ใช่เลย! กลิ่นฉี่ของผู้ชายจะคล้ายกลิ่นฉี่แมว หากเธอห่อมันไว้ แต่ของพ่อเธอไม่มีกลิ่นเลย เพราะฉะนั้น ไม่มีเนื้อเน่าในนั้น เพราะฉะนั้น เลือดของพ่อเธอก็เหมือนกับน้ำ
“เธอไม่สามารถมีชีวิตยาวนานได้ด้วยแค่น้ำของเลือดใช่หรือไม่ ว่ากันตามเหตุผลไม่ใช่เหรอ เลือดของเธอต้องใช้ความดีงามทั้งหมดที่อยู่ในร่างกาย แต่พ่อของเธอไม่มีเลย และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอ่อนแรงตลอดเวลา!
“เธอออกไปจากบ้านตอนนี้แล้วไปดูว่ามันสายเกินไปหรือไม่ และถ้าเขายังอยู่กับพวกเรา เอาสกูตเตอร์ของเธอกลับมารับฉัน รีบไปตอนนี้ แล้วรีบเข้านะ”
ดินแทบจะบินออกประตูไปด้วยซ้ำ และวิ่งกลับไปบ้าน
ในขณะที่ดินออกไปดูพ่อของเธอ ดาเตรียมตัวออกไป เพราะเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเฮงจะไม่ตายแน่นอน อย่างไรก็ตามจะไม่ตาย เธอได้เลือกสมุนไพรบางอย่าง และใส่มันไว้ในย่าม ล้างหน้าแล้วรวบผมด้วยผ้าคลุมศีรษะเพราะกันลมได้ดี เตรียมพร้อมในการนั่งมอเตอร์ไซค์ แล้วเธอออกมาข้างนอกเพื่อรอหลานสาวของเธอ
ดินมาถึงในไม่กี่นาทีต่อมาด้วยฝุ่นฟุ้งตลบ
“เร็วเข้า ป้า แม่บอกว่าให้มาเร็ว ๆ เพราะพ่อกำลังจะเสียแล้ว”
ดานั่งคร่อมสกูตเตอร์อย่างทะมัดทะแมง จากนั้นผมของดินก็หลุดปลิวฟาดบนหน้าอันเหี่ยวย่นของเธออย่างเจ็บปวด และเธอพยายามหลบมัน ทันทีที่พวกเขามาถึง ดากระโดดลงรถ ซึ่งสำหรับเธอแล้วถือเป็นหญิงแก่ที่กระฉับกระเฉงทีเดียว และพากันเข้าบ้านไป
“ขอบคุณที่มาทันเวลา ป้าดา เขาขึ้นห้องนอนแล้ว”
ใช่ ฉันเดาว่าเขาจะอยู่ในที่นอน และไม่ได้อยู่กับแพะสุดรักของเขาเป็นแน่!” เธอยกมุ้งขึ้น และนั่งบนพื้นไม้ ใกล้กับหัวของเขา ก่อนอื่นเธอจ้องมองดูผิวหนังและเส้นผมของเขา แล้วไล่ไปที่ริมฝีปาก และสุดท้ายเธอเปิดตาของเขา และมองเข้าไป
“อืม เห็นละ… เอาเท้าเขาออกมาซิ!” วรรณรีบเอาเท้าสามีออกมา แล้วดาจึงโน้มตัวไปบีบมัน และมองดูใกล้ ๆ
“อืม ฉันไม่เคยเห็นกรณีการขาดโปรตีนในเลือดที่ร้ายแรงเช่นนี้มาก่อน เธอจะอนุญาตให้ฉันบอกลูกของเธอให้ทำอะไรบางอย่างสักระยะได้ไหม ดี ฉันจะกลับมาในไม่ช้า เอาหัวสามีของเธอหนุนไว้บนหมอนสองสามใบนะ ฉันจะให้ดินไปช่วยเธอข้างใน ส่วนเด่นจะช่วยฉันอยู่ข้างนอก”
“ได้ค่ะ ป้า แน่นอน อะไรก็ได้ที่จะช่วยเฮงได้”
“เอาล่ะ มาดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง” และด้วยการที่เธอลุกขึ้น และลงไปที่ระดับพื้นดิน
“ดินไปช่วยแม่ของเธอ เด่นมากับฉัน เราทุกคนต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและแม่นยำ”
ดินรีบทำเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แล้วเด่นถามว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง
“ไป แล้วเอาไก่หนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีมาให้ฉัน! เร็วเข้า พ่อหนุ่ม!”
ตอนที่เขากลับมาพร้อมกับไก่หนุ่มที่หนีบอยู่ใต้แขนของเขา แล้วดาก็จับเอามันไป “ตอนนี้มัดเจ้าแพะตัวผู้ที่แข็งแรงที่สุดของเธอไว้กับเสายาวสักนิ้วให้แน่นจนขยับไม่ได้ ให้มันนั่งหรือยืนก็ได้”
ในขณะที่เด่นรีบออกไป ดาก็เกาะอยู่บนขอบโต๊ะเชือดคอหอยไก่ ตวงเอาเลือดออกมาใส่ชามไว้ โยนร่างไร้วิญญาณลงตะกร้าผักบนโต๊ะ แล้วรีบขึ้นไปชั้นบน
“ดิน” เขาพูดเมื่อมาถึงว่า เธอมีนมแพะ หรือนมชนิดใดก็ได้ในตู้เย็นไหม ถ้าไม่มี ก็เอาเหยือกออกมาแล้วรีดสด ๆ ใส่ลงไป ได้โปรดสาวน้อย ”
เธอไม่ได้ต้องการที่จะบอกแบบเร่งเร้า แล้วเธอก็ออกไป
“โอเค วรรณ เขาตื่นหรือยัง”
“ไม่เลยค่ะ ป้า ครึ่งหลับครึ่งตื่น”
“เอาล่ะ เธอบีบจมูกเขา แล้วฉันจะเอาเลือดหยอดให้ไหลลงคอ” เธอบีบกรามที่ปิดของเขาด้วยนิ้วหัวแม่มือและใช้นิ้วกลางเพื่อเปิดออก ดันหัวของเขาไปด้านหลัง แล้วเทเลือดไก่สองสามคำลงไปในลำคอของเขา ดาเดาทางที่เฮงพ่นออกมาเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล ประมาณครึ่งหนึ่งของมันกำลังไหลลงไปถูกทางแล้ว
เฮงลืมตาขึ้นเล็กน้อย
“นังแม่มดแก่สองคนนี่กำลังทำอะไรกับฉันเนี่ย” เขากระซิบแผ่วเบา“ นั่นมันแย่มาก!”
“อ่า ฉันก็คิดอย่างนั้น” ดาพูดพร้อมกับบอกว่า“ มันเข้มข้นเกินไป เขาต้องสร้างความคุ้นเคยใหม่กับมัน”
เมื่อดินมาถึง เธอก็พูดว่า “นมสดอุ่น ๆ จากเจ้าฟลาวเวอร์ แพะที่ดีที่สุดของเรา”
ดาเอามันผสมกับเลือดที่เหลือ 50-50 แล้วเทลงคอของเฮงเหมือนครั้งก่อนที่ก็ได้ผลเหมือนเดิม แต่มีอาการต่อต้านเล็กน้อย
“ดูนั่นสิ!” เธออุทานขึ้นมา“ เขาแข็งแรงขึ้นมาแล้ว! เฮงกำลังพยายามต่อต้านพวกเรา เขากำลังขัดขืน บางทีเขาอาจจะยังไม่ตายไปเลยก็ได้!
“ถูกต้อง! วรรณเธอเอานมไปด้วย แต่เก็บส่วนที่เหลือไว้ครึ่งหนึ่ง ฉันจะกลับมาในอีกไม่กี่นาที”
เธอลงไปข้างล่าง และเรียกเด่น
“แพะตัวนั้นพร้อมแล้วใช่ไหม”
“ครับ ป้า มันอยู่ตรงนั้น”
“ดีมาก มากับฉัน”
ดากรีดรอยบากที่คอหอยของแพะด้วยมีดปลายปากกาที่คมกริบของเธอ แล้วสูบเลือดออกมาไม่กี่ร้อยมิลลิลิตร
“ดูไว้ว่าฉันทำอย่างไรบ้าง ไอ้หนู จงจำไว้ เพราะฉันคิดว่าเธอจะต้องทำมันทุกวันตั้งแต่นี้ไป”
ทั้งสองคนขึ้นไปข้างบนแล้วต้องแปลกใจที่เห็นเฮงกำลังพูดคุยกับภรรยากับลูกสาวของเขา เหมือนผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่กำลังเบลอยาสลบ อ่อนเพลีย และงุนงง แต่ทว่าเพ้อ
ดาผสมเลือดแพะครึ่งต่อครึ่งกับนมแพะส่วนที่เหลือ แต่กระนั้นให้เขาลองดื่มเพียว ๆ ดูก่อน
“โอ้ ป้า นั่นมันน่าสะอิดสะเอียนมาก!
โอ้ หลานรัก… ” “พยายามดูก่อน” เธอพูดพลางยื่นแก้วที่มีของเหลวสีชมพูให้เขา
ใช่… มันค่อนข้างดีทีเดียว… มันคืออะไร ฉันสามารถรู้สึกได้ว่า มันทำให้ฉันดีขึ้นมาแล้ว”
เฮงดื่มมันอย่างกระหาย
“มันคือ เอ่อ มิลค์เชคกับสมุนไพร… มันดีใช่ไหม”
“ใช่ ป้า ดีมาก… สดชื่นมาก ๆ มีอีกไหม”
วรรณมองไปที่หมอผีเฒ่าที่พยักหน้ารับ วรรณเทให้อีกแก้ว แล้วช่วยสามีให้ดื่ม
“โอ้ ฉันดีใจมากเฮง ดากล่าว ฉันคิดว่าเราได้พบมิลค์เชคนี้เพื่อแก้ปัญหาสถาณการณ์ลำบากของเธอได้แล้ว แม้ว่าฉันมั่นใจว่าเราสามารถทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีกเล็กน้อย บางทีเราอาจจะสามารถหาส่วนผสมอื่นที่จะปรับเปลี่ยนรสชาติให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อให้มันไม่น่าเบื่อ รู้ใช่ไหม”
“ครับป้า ผมรู้ว่าป้าจะช่วยให้ผมมันผ่านพ้นไปได้”
“ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัวของฉัน ฉันยินดีที่ได้ช่วยเหลือ” เธอตอบ และส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจให้กับเขา
เธอผสมเลือดที่เหลือกับนมพร้อมด้วยสมุนไพรบางอย่างหนึ่งหยิบมือลงไปในมิลค์เชคห้าร้อยกว่ามิลลิลิตร แล้วพูดว่า: